บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554


บ้านพักนักเรียน
บ้านกริฟฟินดอร์
ผู้ก่อตั้งบ้าน > ก็อดดิก กริฟฟินดอร์
สัตว์ประจำบ้าน > สิงโต
สีประจำบ้าน > แดง - ทอง
อาจารย์ประจำบ้าน > ศาสตราจารย์ มักกอนากัล สอนวิชา แปรงร่าง
ผีประจำบ้าน > นิกหัวเกือบขาด
ตัวละครเด่นที่อยู่บ้านนี้ > แฮร์รี่ พอตเตอร์ , รอน วีสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
ชุดในการแข่งควิดดิช > สีแดงด้านในสีทอง
ลักษณะบ้าน >รักกล้าหาญ , ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

บ้านกริฟฟินดอร์ เป็นบ้านหนึ่งในนวนิยายเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ บ้านถูกก่อตั้งโดย ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ หนึ่งในสมาชิกทั้งสี่คนที่ร่วมกันก่อตั้งโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ สัญลักษณ์ประจำบ้านคือ สิงโต สีประจำบ้านคือ สีแดง และสีทอง คุณสมบัติของพ่อมดแม่มดรุ่นเยาว์ที่จะอยู่บ้านหลังนี้ได้ ต้องมีความซื่อสัตย์ มีไหวพริบ มีคุณธรรม ชอบความท้าทาย และกล้าหาญ โดยรวมๆคือ เป็นคนดีนั่นเอง ซึ่งจะตรงข้ามกันกับ บ้านสลิธีริน อาจารย์ประจำบ้านคนปัจจุบันคือศาสตร์ตราจารย์มินอร์ว่า มักกอลนากัล


บ้านฮัฟเฟิลพัฟผู้ก่อตั้ง > เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ
สัตว์ประจำบ้าน > แบดเจอร์
สีประจำบ้าน > เหลือง - ม่วง
อาจารย์ประจำบ้าน > ศาสตราจารย์ สเปร้าช์ สอนวิชา สมุนไพรศาสตร์
ผีประจำบ้าน > บาทหลวงอ้วน
ตัวละครเด่นที่อยู่บ้านนี้ > เซดดริก ดิเกอรี่
ชุดในการแข่งควิดดิช > สีเหลือง
บุคลิกลักษณะของผู้ที่จะอยู่บ้านนี้ > ขยันขันแข็ง , เอาการเอางาน
บ้านเรเวนคลอ บ้านหลังนี้เหมาะสำหรับเด็กฉลาด บ้านหลังนี้ถูกตั้งขึ้นโดย "โรวีน่า เรเวนคลอ" ซึ่งตั้งขึ้นพร้อมๆกับ บ้านกริฟฟินดอร์ , บ้านฮัฟเฟิลพัฟ และ บ้านสลิธีริน สีประจำบ้านนี้คือ สีน้ำเงิน และ สีบอรนซ์ สัญลักษณ์ประจำบ้าน คือ นกอินทรี ศาสตราจารย์ประจำบ้านหลังนี้ในปัจจุบัน คือ ศาสตราจารย์ฟลิตวิก (ศาสตราจารย์สอนวิชาเวทมนตร์คาถา)


บ้านเรเวนคลอ
ผู้ก่อตั้ง > โรวีนา เรเวนคลอ
สีประจำบ้าน > ทองแดง - น้ำเงิน
สัตว์สัญลักษณ์ > เหยี่ยว
อาจารย์ประจำบ้าน > ศาสตราจารย์ ฟิวิก สอนวิชา เวทมนตร์ศาสตร์
ผีประจำบ้าน > เกเลดี้
ตัวละครเด่นที่อยู่บ้านนี้ > โช แชง
สีชุดแข่งควิชดิช > สีน้ำเงิน
บุคลิกลักษณะของผู้ที่จะอยู่บ้านนี้ > เก่งกาจ , ฉลาด

บ้านฮัฟเฟิลพัฟ บ้านหลังนี้รับนักเรียนที่รับนักเรียนที่มีความมุ่งมั่น อดทน และมีความยุติธรรม สีประจำบ้าน คือ สีเหลืองและดำ สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ คือ ตัวแบดเจอร์ ผู้ก่อตั้งบ้านหลังนี้ คือ เฮลกา ฮัฟเฟิลพัฟ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ เรเวนคลอ เฮลกา เป็นกม่มดที่มีเสน่ห์ หมวกคัดสรรกล่าวว่าเธอมาจาก The Valley ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น เวลส์



บ้านสลิธิริน
ผู้ก่อตั้ง > ซัลลาซาร์ สลิธิริน
สีประจำบ้าน > เขียว - เงิน
สัตว์สัญลักษณ์ > งู
อาจารย์ประจำบ้าน > ศาสตราจารย์ สเนป สอนวิชา ปรุงยา
ผีประจำบ้าน > บารอนเลือด
ตัวละครเด่นที่อยู่บ้านนี้ > เดรโก มัลฟอย , แครป , กอย
สีชุดแข่งควิชดิช > สีเขียว
บุคลิกลักษณะของผู้ที่จะอยู่บ้านนี้ > เจ้าเล่ห์ , เอาตัวรอดเก่ง
บ้านสลิธีริน เป็นบ้านสำหรับคนที่ทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมาย นักเรียนของบ้านนี้จึงมักเป็นคนฉลาดแกมโกง อย่าง เดรโก มัลฟอย ซึ่งเป็นคู่กัดกับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ สีประจำบ้านหลังนี้ คือ สีเขียวและสีเงิน สัญลักษณ์ประจำบ้าน คือ งู บ้านสลิธีลินถูกตั้งขึ้นโดย ซัลลาซาร์ สลิธีริน ผู้ที่ไม่ต้องการให้พวก มักเกิ้ล มาอยู่ใน โรงเรียนฮอกวอตส์ เพราะเค้าต้องการเพียงผู้วิเศษเท่านั้นที่จะมาเรียนโรงเรียนฮอกวอตส์ได้ และไม่นานนัก ซัลลาซาร์ สลิธีริน กับ ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ (ผู้สร้าง บ้านกริฟฟินดอร์ ) ก็ได้ทะเลาะกันขึ้นถึงขั้นรุนแรง หลังจากนั้น ซัลลาซาร์ สลิธีริน ก็ตัดสินใจทิ้งโรงเรียน ไปและเค้าก็สร้างห้องๆหนึ่งไว้ในโรงเรียนฮอกวอตส์แห่งนี้ มันชื่อว่า "ห้องแห้งความลับ" ห้องแห่งความลับนี้จะไม่สามารถเปิดออกได้ถ้าไม่มี "ทายาทสลิธีรินที่แท้จริง"


ภาษาพาร์เซล
ภาษาพาร์เซล (Parseltongue) 

หนึ่งในภาษาที่ถูกกล่าวถึงในวรรณกรรมชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยมีการกล่าวถึงครั้งแรกในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ห้องแห่งความลับ ซึ่งความสามารถของภาษานี้ กล่าวกันว่าเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกับงูได้ นอกจากจะกล่าวถึงในเล่ม 2 แล้ว จากหนังสือเล่ม 1 หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์ ตัวละครเอกของเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ยังเคยพูดคุยกับงูในสวนสัตว์ช่วงวันเกิดของ ดัลลีย์ ลูกพี่ลูกน้องเขาอีกด้วย

ตามเนื้อเรื่องแล้วมีความเชื่อกันว่าผู้ที่สามารถพูด ภาษาพาร์เซล ( Parselmouth ) ได้นั้น จะมีส่วนหนึ่งส่วนใดเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืด ซึ่งศาสตราจารย์ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เคยกล่าวปฏิเสธความเชื่อนี้ นอกจากนี้ในเนื้อเรื่องยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่สามารถพูดภาษานี้ได้นั้นมีน้อยมาก ทั้งยังไม่สามารถเรียกรู้ผ่านกันได้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพราะมาจากการสืบทอดทางสายเลือดผู้วิเศษ , ตระกูล หรือ ความผิดพลาดทางด้านเวทมนตร์ชั้นสูงในแบบที่เกิดกับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นต้น.

จากเหตุการณ์ของ จินนี่ วีสลีย์ ในหนังสือเล่มที่ 2 หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ห้องแห่งความลับ ด้วยความสามารถของเธอแล้ว ปกติจะไม่สามารถพูดภาษาพาร์เซลได้ แต่ตามท้องเรื่องที่เธอสามารถคุยกับงู รวมถึงเปิดประตูห้องแห่งความลับได้นั้น เป็นผลมาจากวิญญาณของ ลอร์ด โวลเดอมอร์ เข้าสิงเธอ และ สั่งให้เธอทำในสิ่งที่เขาต้องการนั่นเอง

สำหรับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่สามารถพูด ภาษาพาร์เซล ได้นั้นอาจะกล่าวได้ว่าเป็นผลมาจากการต่อสู้กับ ลอร์ด โวลเดอมอร์ ตั้งแต่เด็ก และ แผลเป็นนั่นเองที่มีผลทำให้เขาสามารถติดต่อ , สื่อใจ , ความนึกคิด , อารมณ์ กับ ลอร์ด โวลเดอมอร์ แถมด้วยความสามารถด้านการพูดภาษาพาร์เซล
ผู้ที่มีความสามารถพูดภาษาพาร์เซลอื่นๆ

ซัลลาซาร์ สลิธีริน และ ทายาทหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งโรงเรียนเวทมนตร์ศาสตร์ สามารถพูดคุยกับงูผ่านภาษาพาร์เซลได้ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้สัญลัษณ์ประจำบ้าน สลิธีริน เป็นรูปงู แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า กริฟฟินดอร์พูดภาษาสิงโตได้ จึงมัสัญญลักษณ์บ้านเป็นรูปสิงโต เช่นกัน.

ตระกูลก๊อนท์
อาจะกล่าวได้ว่าเป็นตระกูลทายาทรุ่นสุดท้ายของ ซัลลาซาร์ สลิธีริน มีสมาชิกที่ถูกกล่าวถึง ได้แก่ มาร์โวโล่ , มอร์ฟิน และ เมโรเพ

สำหรับ ลอร์ด โวลเดอมอร์ เขาก็ถือว่ามีเชื้อสายจากตระกูลนี้เช่นกัน เพียงว่าเขาเป็นลูกครึ่งเลือดผสมระหว่า ผู้วิเศษ กับ มักเกิล

จากเหตุการณ์ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม ดัมเบิลดอร์เคยกล่าวทวนคำพูดของ มอร์ฟิน ก๊อนท์ ซึ่งเขาพูดเป็นภาษาพาร์เซล ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขาพูดภาษาพาร์เซลได้ และ อีกกรณีคือเขาเคยดูความทรงจำต่างๆเหล่านี้พร้อมกับผู้ที่พูดภาษาพาร์เซลได้นั่นเอง


วันเกิด




                                                           Birthday


เดือน มกราคม
วันที่ 1 - Verne Troyer ( ผู้รับบทเป็น กริมฮุก )
วันที่ 4 - Jim Norton ( ผู้รับบทเป็น มิสเตอร์ เมสัน )
วันที่ 22 - John Hurt ( ผู้รับบทเป็น โอลิแวนเดอร์ )
วันที่ 24 - Terence Bayler ( ผู้รับบทเป็น บารอนเลือด )
วันที่ 27 - Richard Bremmer ( ผู้ให้เสียง โวลเดอมอร์ )


เดือน กุมภาพันธ์
วันที่ 3 - Warwick Davis ( ผู้รับบทเป็น ศาสตราจารย์ ฟลิวิกส์ )
วันที่ 5 - วันคล้ายวันเกิดของตัวละครที่ชื่อว่า อาเธอร์ วีสลีย์ พ่อของ รอน วีสลีย์
วันที่ 8 - John Williams ( ผู้ประพันธ์เพลงภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ )
วันที่ 8 - Roger Lloyd-Pack ( ผู้รับบทเป็น บาตี้ เคร้าช์ )
วันที่ 17 - Bonnie Wright ( ผู้รับบทเป็น จินนี่ วีสลีย์ )
วันที่ 21 - Alan Rickman ( ผู้รับบทเป็น ศาสตราจารย์ สเนป )
วันที่ 22 - Julie Walters ( ผู้รับบทเป็น มอลลี่ วีสลีย์ )
วันที่ 25 - James and Oliver Phelps ( ผู้รับบทเป็น เฟร็ด กับ จอร์ท วีสลีย์ )


เดือน มีนาคม
วันที่ 13 - Harry Melling ( ผู้รับบทเป็น ดัลลีย์ เดอส์ลีย์ )
วันที่ 13 - Robert Pattinson ( ผู้รับบทเป็น เซดริก ดิเกอรี่ )
วันที่ 15 - Sean Biggerstaff ( ผู้รับบทเป็น โอลิเวอร์ วูท )
วันที่ 20 - David Thewlis ( ผู้รับบทเป็น ศาสตราจารย์ ลูปิน )
วันที่ 21 - Gary Oldman ( ผู้รับบทเป็น ซิเรียส แบล็ค )
วันที่ 22 - Leilah Sutherland ( ผู้รับบทเป็น อลิซา สปินเน็ต )
วันที่ 27 - Julian Glover ( ผู้ให้เสียง อาราก็อก )
วันที่ 30 - Robbie Coltrane ( ผู้รับบทเป็น รูบีอัส แฮกริด )


เดือน เมษายน
วันที่ 1 - วันคล้ายวันเกิดของตัวละครที่ชื่อว่า เฟร็ด และ จอร์ท วีสลีย์
วันที่ 12 - Katie Leung ( ผู้รับบทเป็น โชแชง )
วันที่ 14 - Julie Christie ( ผู้รับบทเป็น มาดามโรสเมอทา )
วันที่ 15 - Emma Watson ( ผู้รับบทเป็น เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ )
วันที่ 20 - Leslie Phillips ( ผู้ให้เสียง หมวกคัดสรร )


เดือน พฤษภาคม
วันที่ 13 - Zoe Wanamaker ( ผู้รับบทเป็น มาดามฮูช )
วันที่ 17 - Paul Whitehouse ( ผู้รับบทเป็น เซอร์ แคโดแกน )
วันที่ 18 - Miriam Margolyes ( ผู้รับบทเป็น ศาสตราจารย์ สเปร้าช์)


เดือน มิถุนายน
วันที่ 5 - วันคล้ายวันเกิดของตัวละครที่ชื่อว่า เดรโก มัลฟอย
วันที่ 6 - Jason Isaacs ( ผู้รับบทเป็น ลูเซียส มัลฟอย )
วันที่ 7 - Robbie Jarvis ( ผู้รับบทเป็น เจมส์ พอตเตอร์ ตอนวัยรุ่น )
วันที่ 20 - Pedja Bjelac ( ผู้รับบทเป็น ไอกอ คาคารอฟ )
วันที่ 27 - Matthew Lewis ( ผู้รับบทเป็น เนวิล ลองบัทท่อม )


เดือน กรกฎาคม
วันที่ 2 - Edward Randell ( ผู้รับบทเป็น จัสติน ฟลินช์ )
วันที่ 10 - Fiona Shaw ( ผู้รับบทเป็น ป้าเพ็ตทูเนีย )
วันที่ 10 - Jeff Rawle ( ผู้รับบทเป็น เกมอน ดิเกอรี่)
วันที่ 21 - Jamie Waylette ( ผู้รับบทเป็น วินเซ็น แครป )
วันที่ 23 - Daniel Radcliffe ( ผู้รับบทเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์ )
วันที่ 30 - Frances de la Tour ( ผู้รับบทเป็น มาดามมักซีม )
วันที่ 31 - วันคล้ายวันเกิดของตัวละครที่ชื่อว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ ( เกิดปี 2523 )
วันที่ 31 - Richard Griffiths ( ผู้รับบทเป็น ลุงเวอนอน )


เดือน สิงหาคม
วันที่ 22 - วันคล้ายวันเกิดของตัวละครที่ชื่อว่า เพอซี่ วีสลีย์
วันที่ 24 - Rupert Grint ( ผู้รับบทเป็น รอน วีสลีย์ )
วันที่ 25 - Angelica Mandy ( ผู้รับบทเป็น แกลบบี้ เดอลากูร์ น้องสาวของ เฟลอ )


เดือน กันยายน
วันที่ 7 - Hugh Mitchell ( ผู้รับบทเป็น คลอลิน ควีฟลีย์ )
วันที่ 10 - Chris Columbus ( ผู้กำกับภาพยนตร์ )
วันที่ 18 - Elizabeth Spriggs ( ผู้รับบทเป็น หญิงอ้วน )
วันที่ 22 - Tom Felton ( ผู้รับบทเป็น เดรโก มัลฟอย )


เดือน ตุลาคม
วันที่ 1 - Richard Harris ( ผู้รับบทเป็น อัลบัส ดัมเบิลดอร )
วันที่ 3 - Christian Coulson ( ผู้รับบทเป็น ทอม มาโวโล ริดเดิ้น )
วันที่ 4 - Will Theakston ( ผู้รับบทเป็น มากัส ฟลินช์ )
วันที่ 4 - Minerva McGonagall ( ศาสตราจารย์ มักกอนากัล ตัวละครในหนังสือ )
วันที่ 8 - Ian Hart ( ผู้รับบทเป็น ศาสตราจารย์ ควีเรวว์ )
วันที่ 11 - Dawn French ( ผู้รับบทเป็น หญิงอ้วน )
วันที่ 19 - Michael Gambon ( ผู้รับบทเป็น ศาสตราจารย์ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ภาค 3 - 6 )
วันที่ 20 - Veronica Clifford ( ผู้รับบทเป็น มิสเตอร์ เมสัน )
วันที่ 27 - John Cleese ( ผู้รับบทเป็น นิกหัวเกือบขาด )
วันที่ 29 - Robert Hardy ( ผู้รับบทเป็น คอนิเลียส ฟัดจ์ )


เดือน พฤศจิกายน
วันที่ 8 - Chris Rankin ( ผู้รับบทเป็น เพอซี่ วีสลีย์ )
วันที่ 9 - Brendan Gleeson ( ผู้รับบทเป็น แม้นอาย มูดี้ )
วันที่ 28 - Alfonso Cuaron ( ผู้กำกับภาพยนตร์ ภาคที่ 3 )


เดือน ธันวาคม
วันที่ 2 - Alfred Enoch ( ผู้รับบทเป็น ดีน โทมัท )
วันที่ 4 - Gemma Jones ( ผู้รับบทเป็น มาดาม พรอมฟรี )
วันที่ 22 - Ralph Fiennes ( ผู้รับบทเป็น ลอร์ด โวลเดอมอร์ ภาค 4 - 6 )
วันที่ 24 - Shirley Henderson ( ผู้รับบทเป็น มอนิ่ง เมอเทิ่น )
วันที่ 28 - Maggie Smith ( ผู้รับบทเป็น ศาสตราจารย์ มักกอนากัล )










Information By : Dan
Thanks , ขอขอบคุณ : Mugglenet , Potterstoryweb.com

เพลงจากหนังสือ
                  บทเพลงของหมวกคัดสรรถูกเปลี่ยนทุกๆปี ขึ้นอยู่กับหมวกที่พิจารณาเองว่าปัจจุบันมันควรร้องเพลงไหน และเหมาะกับสถาณการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ หมวกคัดสรร เป็นหมวกที่ถูกเสกเวทมนตร์ไว้ให้คอยคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณสมบัติต่างๆ เพื่อเข้าบ้านที่ตรงกับคุณลักษณะที่ถูกกำหนดไว้แล้ว โดย พ่อมด และ แม่มดผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ที่ก่อตั้งฮอกวอตส์ขึ้นมา ซึ่งได้แก่ ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ โรวีน่า เรเวนคลอ และ ซัลลาซาร์ สลีธีริน หมวกคัดสรรใบนี้เป็นของ ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ มันจึงค่อนข้างเก่าแก่ และ มีอายุเป็นพันๆปีแล้ว ปัจจุบัน มันวางอยู่ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่โรงเรียน ฮอกวอตส์

เพลง หมวกคัดสรรปีที่ 1
เธออาจไม่คิดว่าฉันสวย
พนันกันตัวได้ถ้าจำเป็น
เธออยากใส่หมวกกลมก็ตามใจ
เพราะฉันเป็นหมวกคัดสรรโรงเรียนนี้
อะไรเอ่ยซ่อนไว้ในหัวเธอ
สวมฉันซิแล้วจะบอกได้ทันใจ
เธออาจไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์
ชอบท้าทายเป็นวีรบุรุษยิ่ง
ฮัฟเฟิลพัฟอาจเป็นแห่งที่เธอไป
ยุติธรรมภักดีไม่รีรอ
พวกฉลาดไปอยู่เรเวนคลอ
อีกเรียนรู้วิชาการเป็นประจำ
หรือเธออาจไปอยู่สลิธีริน
ฉลาดโกงใช้ทุกยุทธวิธี
โอ้สวมฉันเร็วเข้าไม่ต้องกลัว
ปลอดภัยน่าอยู่ในมือที่ไม่พาล
ระวังด้วยอย่าตัดสินแต่ที่เห็น
หาหมวกเด่นเช่นฉันเป็นไม่มี
หรือหมวกใบสูงเพรียวไม่เกี่ยวนี่
และฉันดีเด่นกว่าหมวกทุกใบ
ฉันอ่านเจอเห็นตลอดปลอดโปร่งใส
ว่าบ้านไหนเธอควรไปพำนักพิง
ซึ่งเป็นหอของผู้กล้าหัวใจสิงห์
นี่คือสิ่งสัญลักษณ์กริฟฟินดอร์
บ้านนี้ไว้คนทนไม่ย่อท้อ
ไม่สอพลอไม่เกี่ยงงานวานก็ทำ
บ้านนี้ขอคนเก่งพูดขันขำ
สิ่งสำคัญคือต้องมีความรู้ดี
ซึ่งเป็นถิ่นพบมิตรแท้ชีวิตนี่
ให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ใจต้องการ
ไม่ต้องมัวทำประสาทใจอาจหาญ
เขาเรียกขานฉันหมวกคิดพินิจใจ


เพลง หมวกคัดสรรปีที่ 2
ปี 2 นั้นแฮร์รี่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีคัดสรรด้วย เพราะ เขาถูกศาสตาจารย์สเนปสอบสวนเรื่อง รถฟอร์ดแองเกลียบินได้ ที่ถูกเสกคาถา ของ อาเธอร์ วีสลีย์ ร่วมกับเพื่อนรักของเขา รอน วีสลีย์


เพลง หมวกคัดสรรปีที่ 3 
ปี 3 แฮร์รี่ก็ไม่ได้เข้าร่วมพิธีคัดสรรอีกเช่นกัน เพราะ เขาเป็นลมบนรถไฟด่วน ฮอกวอตส์ เนื่องจากแฮร์รี่เป็นผู้ที่มีผลกระทบต่อ ผู้คุมวิญญาณ มากกว่าคนอื่น เป็นเหตุให้ ศาสตาจารย์ มักกอนนากัล เป็นห่วงอาการของเขา โดยให้ มาดาม พอมฟรีย์ เป็นผู้ตรวจดูอาการ 


เพลง หมวกคัดสรรปีที่ 4
ฉันเป็นหมวกเย็บใหม่เมื่อพันปีก่อน
ของพ่อมดทั้งสี่ที่ทรงภูมิ
อันได้แก่กริฟฟินดอร์ผู้หาญกล้า
เรเวนคลอผู้ประเสริฐเลิศไมตรี
อีกหนึ่งท่านฮัฟเฟิลพัฟผู้อ่อนหวาน
และสุดท้ายสลิธีรินปัญญาไว
ทั้งสี่ท่านยังโด่งดังถึงวันนี้
ต่างคาดหวังวางแผนการและกฎเกณฑ์
จึงจัดตั้งฮอกวอตส์โรงเรียนเวท
เนื่องจากมีความคิดเห็นเป็นสี่ทาง
บ้านหลังแรกกริฟฟินดอร์ยอผู้กล้า
เรเวนคลอขอยกย่องผู้มีเชาวน์
สำหรับผู้รู้มานะและมุ่งมั่น
สลิธีรินผู้ไขว่คว้าความเกรียงไกร
เมื่อครั้งที่ทั้งสี่มีชีวิต
เหล่านักเรียนตัวน้อยในตอนนั้น
แต่วันนี้เมื่อไม่มีสี่พ่อมด
เมื่อไม่มีทั้งสี่เลือกนักเรียนเอง
โชคดีที่กริฟฟินดอร์ท่านค้นพบ
ท่านถอดหมวกใบที่สวมอยู่ทันใด
ผู้ก่อตั้งต่างมอบส่วนเสี้ยวสมอง
ใส่ในหมวกกริฟฟินดอร์ในคราวนั้น
ทีนี้จงสวมฉันไว้ถึงใบหู
แม้สักครั้งไม่เคยพลาดให้คลางแคลง
พอดีตอนช่วงโด่งดังกำลังหนุ่ม
ทั่วทุกมุมโลกพ่อมดรู้จักดี
ผู้มาจากทุ่งกว้างทางวิถี
จากธานีในหุบผาสุดฟ้าไกล
เป็นอีกหนึ่งตำนานจากขุนเขาใหญ่
จากดินแดนในหนองน้ำอันเยียบเย็น
ทั้งสี่มีความใฝ่ฝันอันแลเห็น
ที่จะเกณฑ์พ่อมดแม่มดน้อยมารวมกัน
โดยแบ่งเขตเป็นบ้านได้สี่หลัง
ในการสั่งสอนอบรมผู้อ่อนเยาว์
ผู้ไม่กลัวย่อมสูงส่งกว่าใครเขา
ผู้ฉลาดกว่าใครเขาย่อมมีชัย
ก็คู่ควรกับบ้านฮัฟเฟิลพัฟได้
ย่อมรักใคร่ผู้มีความทะเยอทะยาน
ต่างก็เป็นผู้คิดผู้เลือกสรร
ท่านจัดแบ่งแยกบ้านกันด้วยตัวเอง
วิธีใดจะแก้โจทย์ได้เหมาะเหม็ง
จะมองเห็นผู้เหมาะสมได้อย่างไร
วิธีจบเรื่องคัดสรรเด็กมาใหม่
แล้วทั้งสี่ก็ร่ายเวทวิเศษพลัน
สำหรับใช้ตรึงตรองและเลือกสรร
กลายเป็นฉันวันนี้ที่คัดเลือกแทน
ฉันจะดูรู้ถึงใจไปตามแผน
แล้วจะแจ้งว่าเธอเหมาะกับบ้านใด


เพลง หมวกคัดสรรปีที่ 5
ครั้งก่อนเก่าคราวฉันยังใหม่เอี่ยม
ผู้สถาปนาร่วมรวมกำลัง
ล้วงมุ่งมาดปรารถนาหลักชัยเดียว
โรงเรียนเวทมนตร์เลิศประเสริฐพลัน
สี่สหายมิ่งมิตรคิดดีแท้
จะหาใครรักกันเท่าเพื่อนยา
เขากับสลิธีรินเป็นเพื่อนตาย
เธอนี่เป็นเพื่อนเกลอเรเวนคลอ
แล้วเหตุใดจึงเกิดเรื่องวิวาท
ฉันอยู่ด้วยที่นั่นในสังเวียน
เราจะสอนแต่เลือดบริสุทธิ์
สลิธีรินประกาศแจ้งทันใด
นี่มติของแม่มดเรเวนคลอ
หาญกล้าบ้าบิ่นเสี่ยงชีวี
ความแตกต่างทำให้เกิดการถกเถียง
เพราะทั้งสี่มีบ้าน เป็นของตน
สลิธีรินคัดสรรแต่เลือดสะอาด
พวกนักเรียนเหล่านี้ล้วนละม้าย
เรเวนคลอสรรหาคนฉลาด
เลือกคนกล้าบ้าบิ่นเปนล้นพ้น
บ้านทั้งสี่และสี่ผู้ก่อตั้ง
สามัคคีซื่อสัตว์เต็มอัตรา
ความบาดหมางคลานคืบเข้ามาใกล้
อีกความกลัวความพลาดผิดมาประชัน
ทั้งแตกแยกและแย่ซึ่งอำนาจ
เพื่อนสู้เพื่อนเรื่องเพื่อนเกลื่อนกลาดใน
แล้วจู่ๆผู้เฒ่าสลิธีริน
สามสหายที่เหลือผูกไมตรี
ความท้อแท้ทิ้งวางลงรากลึก
ฉันเป็นหมวดคัดสรรผู้ชำนาญ
ฉันจำใจคัดสรรเป็นสี่หมู่
ส่งเข้าสู่บ้านแจกจ่างกัน
แต่ปีนี้นี่ภัยมาเยือนแล้ว
ร่วมกันปรองดองอย่ารีรอ
ร่วมกันต้านศัตรูร้ายจากภายนอก
ไม่ร่วมมือโรงเรียนจะภินท์พัง
โรงเรียนเยี่ยมฮอกวอตส์เพิ่งก่อตั้ง
ไม่พลาดพลังคิดแยกแตกจากกัน
คือคับเคี่ยวสร้างสรรค์ซึ่งความฝัน
แหล่งสำคัญแผ่ขยายกระจายวิชา
ร่วมใจแน่สอนสั่งนักศึกษา
อยากจะหาเช่งมิ่งมิตรกริฟฟิรดอร์
อีกสหายฮัฟเฟิลพัฟร่วมด้วยหนอ
สองคู่พอใจรักสำนักเรียน
น่าอนาถมิตรภาพต้องหันเหียน
รู้เรื่องเศร้าจวนเจียนจะขาดใจ
เชื้อสายสุดสะอาดชาติสุกใส
ส่วนเราไซร้สอนปราชญ์ฉลาดดี
กริฟฟินดอร์ขอเลือกนักเรียนที่
ฮัฟเฟิลพัฟไม่จู้จี้สอนทุกคน
คุกรุ่นเพียงไม่ขุ่นข้องโกลาหล
จึงเลือกพลเข้าบ้านตามสบาย
มีเล่น์เหลี่ยมเปรื่องปราดกว่าสหาย
คลึงคล้ายอาจารย์ชายผู้สอนตน
กริฟฟินดอร์ไม่พลาดไม่สับสน
ฮัฟเฟิลพัฟสอนทุกคนที่เหลือมา
ไมตรียั่งยืนยาวหลายพรรษา
อนิจจาความสุขไม่นิรันดร์
โตเติบใหญ่ด้วยอาศัยซึ่งโมหันธ์
สี่ครูฝันเปลี่ยนแปลงระแวงใจ
ฮอกวอตส์อาจล่มสลายพ่ายแพ้ใส
สี่บ้านใหญ่เสาหลักเลื่อนเคลื่อนปฐพี
ท่านผันผินละถิ่นฐานสำราญนี่
แต่สามัคคีไม่กลับคืนไม่ยืนนาน
แต่ละตึกห่างเหินเกินประสาน
ยิ่งเชี่ยวชาญแบ่งแยกให้แตกกัน
เหล่าหนูหนูปีหนึ่งไม่แปรผัน
ให้เหมาะมั่นนิสัยและใจคอ,
ฉันเพื่อนแก้วฮอกวอตส์มีเรื่องขอ
แต่ละหอผูกไมตรีมีพลัง
หาไม่หรอกฮอกวอตส์หมดความขลัง
ขอจงฟังและคัดสรรจะเริ่มเอย

เพลง หมวกคัดสรรปีที่ 6 
ปี 6 แฮร์รี่ถูกมัลฟอยทำร้าย เนื่องจากแฮร์รี่สงสัยว่ามัลฟอยกำลังวางแผนทำอะไรที่ร้ายกาจอยู่ เขาจึงสะกดรอยตามจนถูกจับได้และโดนทำร้าย โดยที่กลับไปร่วมพิธีคัดสรรไม่ทัน

เพลง วีสลีย์ราชันย์ของเรา ฉบับบ้าน กริฟฟินดอร์

วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา
วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา
เขาไม่ปล่อยลูกควัฟเฟิลเข้า
วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา
วีสลีย์นั้นกันได้ทุกท่า
ห่วงเดียวก็ไม่ปล่อยเข้ามา
กริฟฟินดอร์จึงร้องบอกว่า
วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา

เพลง วีสลีย์ราชันย์ของเรา ฉบับบ้าน สลิธีริน

วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา
วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา
วีสลีย์นั้นกันไม่เป็นท่า
ห่วงเดียวก็ไม่อาจรักษา
สลิธิลินจึงร้องบอกว่า
วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา
วีสลีย์เกิดในถังขยะ
เขาปล่อยควัฟเฟิลเข้าทุกกะ
วีสลีย์ทำให้เราชนะ
วีสลีย์นั้นราชันย์ของเรา


Information By : Dan
Thanks , ขอขอบคุณ : Potterstoryweb.com

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต

เรื่องเริ่มต้นที่บ้านของลูเซียส มัลฟอย โดยลอร์ดโวลเดอมอร์ และสมุนจำนวนหนึ่ง วางแผนการเกี่ยวกับการย้ายออกจากบ้านเดอร์สลี่ย์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงชื่อแยกซ์ลีย์ ระบุว่าแฮร์รี่จะย้ายออกในวันคล้ายวันเกิด ในขณะที่สเนประบุว่าแฮร์รี่จะย้ายออกก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ โวลเดอมอร์ยืมไม้กายสิทธิ์ของมัลฟอย จากการที่ไม้กายสิทธิ์ของเขาเองใช้ไม่ได้ผลกับแฮร์รี่ ภาคีนกฟีนิกซ์ส่งพ่อมดมาคุ้มครองครอบครัวเดอร์สลีย์ ในขณะที่กองกำลังอีกส่วนหนึ่งมาพาตัวแฮร์รี่ออกไป โดยวางแผนให้คนอีกหกคนเป็นนกต่อ ใช้น้ำยาสรรพรสแปลงตัวเป็นแฮร์รี่กระจายไปยังที่ซ่อนต่างๆกัน แต่แฮร์รี่ยังคงถูกสมุนโวลเดอมอร์ระบุตัวได้จากการใช้คาถาปลดอาวุธที่เขาใช้เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ยังคงชนะไม้ที่ยืมมาของโวลเดอมอร์ แฮร์รี่ไปถึงบ้านโพรงกระต่ายอย่างปลอดภัย แต่เฮ็ดวิกต้องตายจากการปะทะกัน และพบว่าจอร์จ วีสลีย์เสียหูไปข้างหนึ่งด้วยคาถาของสเนป และอลาสเตอร์ มูดดี้ถูกโวลเดอมอร์ฆ่า สองสามวันต่อมา รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์มาที่บ้านโพรงกระต่าย เพื่อนำของตามพินัยกรรมของดัมเบิลดอร์มาให้แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ รอนได้รับ "ดีลูมิเนเตอร์" หรือ "ที่ดับไฟ" ของดัมเบิลดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ได้รับหนังสือ "นิทานของบีเดิลยอดกวี"เป็นภาษารูนโบราณ ส่วนแฮร์รี่ได้รับลูกสนิชลูกแรกที่แฮร์รี่จับได้ และดาบของกริฟฟินดอร์ อย่างไรก็ตามกระทรวงไม่ยอมมอบดาบให้แก่แฮร์รี่ ในระหว่างงานแต่งงานของบิล วีสลีย์ และเฟลอร์ เดอลากูร์ มีข่าวมาว่าโวลเดอมอร์ได้เข้าควบคุมกระทรวงเวทมนตร์เป็นผลสำเร็จ และผู้เสพความตายได้เข้าโจมตีอีกครั้ง แฮร์รี่และเพื่อนทั้งสองหายตัวหนีไปยังบาร์ของมักเกิ้ลแห่งหนึ่ง แต่ก็ถูกตามพบอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ทั้งสามหนีรอดไปได้อีก จากนั้นจึงหนีไปยังบ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์เพลซ ซึ่งได้ค้นพบว่า ร.อ.บ. คือเรกูลัส แบล็ก น้องของซิเรียส และล็อกเก็ตของจริงซึ่งแฮร์รี่ตามหานั้น ไปตกอยู่ในความครอบครองของโดโลเรส อัมบริดจ์ กลุ่มของแฮร์รี่สามารถบุกเข้าไปในกระทรวง และนำล็อกเก็ตมาได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ที่ซ่อนที่กริมโมลด์เพลซถูกค้นพบ ทั้งสามจึงต้องเร่ร่อนตามชนบทโดยเปลี่ยนที่พักแรมไปเรื่อยๆ และต่อมาได้ทราบโดยบังเอิญว่าดาบกริฟฟินดอร์ที่เคยเห็นเป็นดาบปลอมทำเลียนแบบ ส่วนดาบจริงนั้นหายไป ระหว่างนั้น รอนได้ทะเลาะกับแฮร์รี่ และแยกตัวจากไป แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ไปยังก็อดดริกฮอลโล่ เพื่อตามหาดาบ แต่กลับถูกนากินี งูของโวลเดอมอร์ทำร้าย และไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่เสียหายโดยไม่อาจซ่อมได้ หลังจากนั้นไม่นาน มีผู้พิทักษ์รูปกวางตัวเมียปรากฏตัวบริเวณค่ายพักที่แฮร์รี่อยู่ และกวางได้นำแฮร์รี่ไปพบดาบกริฟฟินดอร์ซึ่งซ่อนอยู่ในบึงน้ำแข็ง รอนกลับมาช่วยแฮร์รี่ในการนำดาบขึ้นมา และทำลายล็อกเก็ตซึ่งเป็นฮอร์ครักซ์อันแรก ทั้งสามไปยังบ้านของครอบครัวเลิฟกู๊ด และได้รู้เรื่อง "เครื่องรางยมทูต" สามอย่าง ได้แก่ ไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากไม้เอลเดอร์ ซึ่งทำให้ชนะการต่อสู้ หินชุบวิญญาณ ที่สามารถเรียกคนตายกลับมา และผ้าคลุมล่องหนที่ไม่เสื่อมตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม พ่อของลูน่าแจ้งกระทรวงเรื่องแฮร์รี่ โดยหวังแลกกับลูน่าที่ถูกจับไปก่อนหน้า พวกของแฮร์รี่หนีรอดได้อีกครั้ง พวกของแฮร์รี่ถูกนักล่าค่าหัวจับได้ หลังจากแฮร์รี่เผลอเอ่ยชื่อโวลเดอมอร์ เพราะมีการเสกคาถาให้เป็นคำต้องห้ามและบุคคลที่พูดคำนี้จะถูกระบุตัวได้ทันที พวกนักล่านำแฮร์รี่และเพื่อน รวมทั้งดีน โทมัส และก็อบลินชื่อกริ๊บฮุกที่ถูกจับอยู่ด้วยไปยังบ้านมัลฟอย ที่นั้น พวกเขาได้พบกับโอลิแวนเดอร์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ และลูน่า เลิฟกู๊ด ทั้งหมดหนีไปได้ด้วยความช่วยเหลือของด็อบบี้ เอลฟ์ที่เคยอยู่กับมัลฟอย แต่ดอบบี้ถูกเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ฆ่าตาย พวกเขาหนีไปอยู่ที่บ้านของบิลและเฟลอร์ ทั้งสามบุกเข้าไปในธนาคารกริงกอตส์ด้วยความช่วยเหลือของก็อบลิน และขโมยถ้วยฮัฟเฟิลพัฟออกมาจากห้องนิรภัยของเลสแตรงจ์ โวลเดอมอร์ทราบข่าวการขโมยนี้ จึงทราบในที่สุดว่าพวกแฮร์รี่กำลังตามหาฮอร์ครักซ์ แฮร์รี่ได้รับรู้ความคิดของโวลเดอมอร์อีกครั้ง ขณะที่เขากำลังลำดับที่ตั้งของฮอร์ครักซ์ทั้งหมด ทำให้แฮร์รี่ได้รู้ว่าฮอร์ครักซ์อันสุดท้ายที่ตนยังไม่ทราบว่าเป็นอะไรนั้นอยู่ในฮอกวอตส์นั่นเอง พวกเขากลับเข้าไปในฮอกวอตส์ด้วยความช่วยเหลือของอาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์ น้องชายของอัลบัส แฮร์รี่แจ้งเตือนการมาของโวลเดอมอร์แก่อาจารย์ และพบฮอร์ครักซ์ซึ่งเป็นรัดเกล้าของเรเวนคลอในห้องต้องประสงค์ หลังจากนั้นพวกของแฮร์รี่ได้ไปยังเพิงโหยหวน และเห็นโวลเดอมอร์ฆ่าสเนป ด้วยความเชื่อว่าเขาจะได้เป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ที่เคยเป็นของดัมเบิลดอร์อย่างสมบูรณ์ ก่อนตาย สเนปมอบความทรงจำแก่แฮร์รี่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ฝ่ายดัมเบิลดอร์ ด้วยความรักที่มีต่อลิลี่ แม่ของแฮร์รี่ นอกจากนี้ แฮร์รี่ยังค้นพบว่า วิญญาณส่วนหนึ่งของโวลเดอมอร์อยู่ในตัวของเขาเอง และโวลเดอมอร์ไม่สามารถตายได้หากเขายังมีชีวิตอยู่ แฮร์รี่จึงไปพบกับโวลเดอมอร์และต่อสู้กับคาถาพิฆาตโดยจงใจให้ตนเองถูกคาถาพิฆาตใส่ตาย แฮร์รี่ตื่นขึ้นมาและพบกับดัมเบิลดอร์ ซึ่งอธิบายว่าเขาไม่สามารถตายโดยที่โวลเดอมอร์ยังอยู่ เพราะโวลเดอมอร์สร้างร่างขึ้นมาจากเลือดของแฮร์รี่ แฮร์รี่เป็นเจ้าของอันชอบธรรมของเครื่องรางยมทูต คาถาพิฆาตได้ทำลายวิญญาณของโวลเดอมอร์ในตัวแฮร์รี่ และแฮร์รี่สามารถเลือกที่จะไปต่อ หรือกลับไปเพื่อสู้กับโวลเดอมอร์อีกครั้ง แฮร์รี่กลับไป และได้สู้กับโวลเดอมอร์อีกครั้งหนึ่ง แฮร์รี่ยังรู้ด้วยว่านายของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ที่แท้จริงไม่ใช่สเนป แต่เป็นเดรโก มัลฟอย ซึ่งเขาเอาชนะมาได้ ในที่สุดโวลเดอมอร์ก็สิ้นชีพด้วยคำสาปพิฆาตของตัวเองที่สะท้อนกลับ เรื่องจบลงด้วยฉากในอีก 19 ปีต่อมา แฮร์รี่แต่งงานกับจินนี่ และมีลูกด้วยกัน 3 คน คือ เจมส์, อัลบัส เซเวอรัส, ลิลี่ ส่วนรอนและเฮอร์ไมโอนี่ก็แต่งงานกันมีลูกด้วยกัน 2 คน คือ ฮิวโก้, โรส ทั้งสองครอบครัวพบกันที่สถานีรถไฟขณะไปส่งลูกๆ ไปยังฮอกวอตส์และแฮร์รี่ก็ไม่เคยเจ็บแผลเป็นอีกเลยหลังจากลอร์ดโวลเดอมอร์ตาย

ส่วนหนังของตอนนี้ไปดูได้ในบทความเดือนสิงหาคมนะคร้า

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม

เกิดอุบัติเหตุและฆาตกรรมทั้งในโลกพ่อมดและมักเกิ้ล ฟัดจ์ถูกปลดจากรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนตร์และ รูฟัส สกริมเจอร์ ได้เป็นแทน ทั้งสองคนมาแจ้งเหตุให้นายกรัฐมนตรีของมักเกิ้ลให้ทราบเพื่อจะได้ระวังตัว นาซิสซาและเบลลาทริกซ์เดินทางมาหาสเนปที่บ้าน ปรากฎว่าสเนปยังจงรักภักดีต่อ โวลเดอมอร์ และทำหน้าที่สายลับในฮอกวอตส์ โวลเดอมอร์มีแผนจะใช้ เดรโกกระทำบางอย่าง นาซิสซาจึงขอให้สเนปสาบานว่าจะช่วยดูแลลูกชาย ดัมเบิลดอร์มารับแฮร์รี่ที่บ้านลุงกับป้า ด้วยมือที่บาดเจ็บข้างหนึ่งและยังสวมแหวนแปลกประหลาด อาจารย์ใหญ่บอกว่า แฮร์รี่ได้มรดกจากซีเรียสทั้งหมดรวมทั้งครีเชอร์ด้วย แฮร์รี่ตัดสินใจส่งครีเชอร์ไปทำงานที่ฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปหาเพื่อนเก่าชื่อ โฮเรส สลักกอร์น เพื่อขอให้กลับไปช่วยที่ฮอกวอร์ต แฮร์รี่ได้รู้ว่า สลักกอร์นเคยเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีริน และตระกูลแบล็คเคยอยู่บ้านนี้ทุกคนนอกจาก ซีเรียส หลังจากนั้นก็ไปส่งเด็กหนุ่มที่บ้านโพรงกระต่าย ก่อนจะไปได้บอกว่า เปิดเทอมนี้จะสอนวิชาพิเศษให้เขา โดยให้คำเตือนไว้ 2 ข้อ คือ เก็บผ้าคลุมล่องหนไว้กับตัวเสมอ กับ ห้ามออกไปเพ่นพ่าน แฮร์รี่ เล่าเรื่องลูกแก้วพยากรณ์ให้รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ฟังตามที่ดัมเบิลดอร์บอก เขาพบว่า เฟลอร์ เดอลากูร์มาอยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายเพราะกำลังจะแต่งงานกับบิล โดยที่คุณนายวีสลีย์ไม่ค่อยเห็นชอบเท่าไหร่ นกฮูกส่งผลการสอบ ว.พ.ร.ส. มาให้ ทั้งแฮร์รี่และรอนได้คะแนนสูงพอที่จะเป็นมือปราบมาร และแฮร์รี่ยังได้เป็นกัปตัน ทีมควิดดิชอีกด้วย ระหว่างนั้นมีข่าวการถูกทำร้ายและการหายตัวไปของพ่อมดอีกหลายคนรวมทั้งโอลิแวนเดอร์ เจ้าของร้านขายไม้กายสิทธิ์กับฟอร์เตสคิว เจ้าของร้านไอสครีมด้วย ในวันที่ไปซื้อของที่ตรอกไดแอกอน แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ มีเรื่องกับมัลฟอยและแม่ ก่อนที่จะไปที่ร้านของเฟร็ดกับจอร์จที่อวดผลงานมากมาย แฮร์รี่สังเกตเห็นมัลฟอยเดินผ่านหน้าร้านตามลำพัง ทั้งสามคนใช้ผ้าคลุมล่องหนตามไป เห็นมัลฟอยเข้าไปในร้าน บอร์เจนและเบิร์ก เขาถามถึงวิธีการซ่อมแซมอะไรบางอย่างจากเจ้าของร้าน กับให้เก็บของอย่างหนึ่งไว้ให้เขา เฮอร์ไมโอนี่ออกไปตีขลุมถามเจ้าของร้านและพบว่า ของที่เดรโกให้เก็บเป็นสร้อยคอเส้นหนึ่ง ในวันที่นั่งรถไฟ ไปฮอกวอตส์ แฮร์รี่พบสลักกอร์น และได้รับเชิญให้เข้าร่วมชมรมซึ่งสลักกอร์นรวบรวมเด็กเก่งและมีชื่อเสียงไว้ด้วยกัน แฮร์รี่แอบตามไปดูมัลฟอยโดยใช้ผ้าคลุมล่องหนแต่ถูกจับได้และถูกทำร้าย แต่ท็องส์ซึ่งได้รับคำสั่งให้มาประจำการ ที่ฮอกส์มี้ดมาช่วยไว้ได้ เมื่อรถไฟมาถึงโรงเรียน เขาได้รู้ว่าสลักกอร์นได้รับเชิญให้มาสอนวิชาปรุงยา ขณะที่สเนปได้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เนื่องจากในปีนี้นักเรียนจะสามารถยกเว้นวิชาที่ไม่ต้องการ แฮร์รี่จึงไม่ได้ซื้อหนังสือวิชาปรุงยา มักกอลนากัลทราบก็บอกว่า สลักกอร์นน่าจะมีให้ยืม นอกจากนี้สามสหาย ยังเลิกเรียนวิชาดูแล!วิเศษซึ่งยังความผิดหวังให้กับแฮกริดอย่างยิ่ง เมื่อถึงวิชาปรุงยา สลักกอร์นให้แฮร์รี่ยืมหนังสือเก่า ที่อยู่ในตู้หนังสือในห้อง เด็กหนุ่มพบว่า หนังสือที่เขาใช้มีโน้ตอยู่เต็มไปหมด และยังเขียนว่าเป็นของ Half-Blood Prince เมื่อถึงเวลาเรียนเขาทำตามที่โน้ตเขียนไว้และประสบความสำเร็จขนาดชนะเฮอร์ไมโอนี่ สลักกอร์นซึ่งชื่นชอบแฮร์รี่เป็นการส่วนตัวอยู่ก่อนแล้วให้ยา โชคดี' ขวดหนึ่งเป็นรางวัล ขณะที่ในวิชาป้องกันตัว จากศาสตร์มืด สเนปเริ่มสอนการใช้เวทย์มนต์โดยไม่ท่องคาถา รวมถึงวิชาอื่นๆ เช่นกัน และในปีนี้พวกเขาจะได้ เรียนวิชาหายตัวอีกด้วย แฮร์รี่ใช้หนังสือเล่มนั้นต่อๆ มา แม้เฮอร์ไมโอนี่จะคัดค้านแต่ทั้งเขาและรอนไม่ได้สนใจ เพราะนอกจากวิธีปรุงยา ยังมีโน้ตคาถาแปลกๆ อีกด้วย เมื่อถึงเวลานัดหมายไปเรียนพิเศษกับดัมเบิลดอร์ แต่ละครั้ง แทนที่จะสอน ครูใหญ่กลับพาเด็กหนุ่มเข้าไปในเพนซีฟ เพื่อดูความจำเรื่องอดีตของลอร์ดโวลเดอมอร์ เท่าที่ดัมเบิลดอร์จะรวบรวมได้จากความทรงจำของหลายๆ คนรวมทั้งตัวเขาเอง แฮร์รี่จึงได้รู้ว่า โวลเดอมอร์ เป็นเชื้อสายของซัลลาซาร์ สลิธีริน แฮร์รี่ได้เห็น มาร์โวโล กอนท์ ผู้เป็นตา มอร์ฟินผู้เป็นลุง และเมอโรปี แม่ของโวลเดอมอร์ พวกเขาครอบครองแหวนกับจี้ห้อยคอซึ่งเป็นมรดกตกทอด เมอโรปีหลงรักมักเกิ้ลชื่อ ทอม ริดเดิ้ล เมื่อเธออยู่ตามลำพังหลังจากพ่อและพี่ชายถูกจับข้อหาทำร้ายมักเกิ้ลและเจ้าพนักงาน เธอก็ใช้ยาเสน่ห์ กับริดเดิ้ลและหนีไปกับเขา หากเมื่อเธอเลิกใช้ยาในภายหลัง เขาก็หนีเธอมาทั้งๆ ที่เธอกำลังตั้งท้อง เธอหมดอาลัยตายอยาก และยากจนถึงกับต้องขายมรดกไปถูกๆ เธอซมซานไปจนถึงบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ของมักเกิ้ลแห่งหนึ่ง เมื่อคลอดลูกแล้วก็ตายไป ต่อมาดัมเบิลดอร์เป็นผู้ไปหาริดเดิ้ลเพื่อแจ้งเรื่องที่ได้ เข้าเรียนในฮอกวอร์ต เขาพบว่า ริดเดิ้ลส่อแวว ทะนงตน ชอบเอาชนะ และพอใจกับการทำร้ายคนมาตั้งแต่เด็กๆ รวมทั้งชอบเก็บของผู้ถูกทำร้ายไว้ต่างถ้วยรางวัล แฮร์รี่ยังได้รู้ว่าริดเดิ้ลเคยอยู่ในชมรมของสลักเกิ้ล เขาเห็นริดเดิ้ลถามเรื่อง กล่องวิญญาณ (Horcruxes) แต่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรความทรงจำช่วงนี้ก็ขาดหาย เพราะสลักเกิ้ลผู้เป็นเจ้าของได้ลบความทรงจำส่วนนี้ไป ดัมเบิลดอร์ให้เด็กหนุ่มไปถามแต่ก็ผู้เป็นเจ้าของก็ไม่ยอมตอบ ระหว่างนั้น แคตี้ เบล ถูกวางยา จนถึงขนาดส่งเซ็นต์มังโก แฮร์รี่สงสัยว่าเป็นมัลฟอยแต่ไม่มีหลักฐาน เขาให้ครีเชอร์ ์กับด็อบบี้ตามสอดแนมแต่ก็ไม่ได้เรื่อง เขาเคยใช้แผนที่ตัวกวนแต่ก็ไม่พบมัลฟอย ราวกับฝ่ายนั้นหายไปจากปราสาท แฮร์รี่เกิดความรู้สึกแปลกๆ กับจินนี่ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทางเย็นชาต่อรอนซึ่งคบกับลาเวนเดอร์ เขาถึงกับใช้ยา โชคดีนิดหน่อยจนจินนี่เลิกกับดีน และหันมาคบกับเขาในที่สุด ในวันคริสต์มาสที่แฮร์รี่มาพักที่บ้านโพรงกระต่าย สกริมเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์คนใหม่มาพบเขาและเสนองานในกระทรวงให้แต่จะให้ เขาคอยสอดแนมดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่ปฏิเสธ หลังจากนั้น เมื่อถึงวันเกิดของรอนปรากฏว่ารอนถูกวางยา แต่ก็จับมือใครดมไม่ได้ หลังจากนั้นรอนเลิกกับลาเวนเดอร์ ในการพบกับดัมเบิลดอร์ครั้งต่อๆ มา แฮร์รี่ได้รู้ว่า โวลเดอมอร์เคยสมัครเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดกับดิพพิต อาจารย์ใหญ่คนเก่า ดัมเบิลดอร์ให้ข้อสันนิษฐานว่าเพราะเจ้าแห่งศาสตร์มืดอาจจะมีแผนค้นหาความลับในปราสาทและชักจูงพ่อมดหนุ่มสาว เมื่อถูกปฏิเสธเพราะอายุน้อยเกินไป เขาก็ไปทำงานในร้านบอร์เจนและเบิร์กซึ่งทำให้ได้มีโอกาสหาของมากมาย ครั้งหนี่งเขาไปติดต่อกับแม่มดคนหนึ่งซึ่งชอบเขามากถึงกับอวดของสะสมที่มีค่าที่สุดคือถ้วยของ เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ กับ จี้ห้อยคอของซัลลาซาร์ สลิธีริน สองวันต่อมาแม่มดผู้นี้ก็ถูกฆ่า และเอล์ฟประจำบ้านซึ่งเป็นเจ้าของ ความทรงจำนี้ก็ถูกกล่าวหา ของทั้งสองอย่างหายไป ต่อมาโวลเดอมอร์มาเสนอตัวกับดัมเบิลดอร์อีกครั้งแต่ถูกปฏิเสธ นับตั้งแต่นั้น ไม่เคยมีอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่สอนเกินกว่า 1 ปี ดัมเบิลดอร์บอกว่าเป็น เพราะเขาต้องการจะหาสมบัติของเรเวนคลอกับกริฟฟินดอร์ด้วย แฮกริดมีจดหมายมาบอกว่า อาราก็อก แมงมุมยักษ์ซึ่งป่วยมานานแล้วตายลง เขาจะทำพิธีศพให้ในตอนค่ำ แฮร์รี่จึงลอบออกไปโดยใช้ยาโชคดี เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ เขาพบกับสลักกอร์น และเกลี้ยกล่อมจนอีกฝ่ายยอมถอดความทรงจำออกมาให้ ดัมเบิลดอร์กับแฮร์รี่จึงได้รู้ว่า กล่องวิญญาณเป็นเครื่องมือที่ใช้ถอดวิญญาณออกจากร่างเพื่อให้เป็นอมตะ เพราะเหตุนั้นโวลเดอมอร์จึงไม่ตายด้วยคำสาปสะท้อนกลับตอนที่ไปฆ่าแฮร์รี่ที่ยังเล็ก แต่การที่จะทำกล่องวิญญาณได้จะต้องฆ่าคน โวลเดอมอร์แบ่งวิญญาณออกเป็น 7 ส่วน ดัมเบิลดอร์บอกว่า ส่วนหนึ่งถูกเก็บไว้ในสมุดบันทึกที่แฮร์รี่ทำลายไปเมื่อตอนปีสอง ส่วนหนึ่งอยู่ในแหวนที่แฮร์รี่เคยเห็นอาจารย์ใหญ่ใส่ และถูกทำลายไปเช่นกัน ดัมเบิลดอร์กำลังหาส่วนอื่นๆ อยู่ ดัมเบิลดอร์ยังสัณนิษฐานว่า อาจจะอยู่ที่กอดริกฮอลโล่ว ด้วยอันหนึ่ง ครั้งหนึ่งแฮร์รี่มีเรื่องกับมัลฟอย เขาใช้คาถาที่ได้จากสมุดของ Half-blood Prince โดยไม่ได้ตั้งใจ เขาโดนสเนปคาดคั้นแต่เขาไม่ตอบ ขณะที่แฮร์รี่กำลังจะไปพบครูใหญ่ เขาพบทริลอร์นี่ย์กลางทางและได้รู้เรื่องว่า ตอนที่เธอมาสัมภาษณ์เมื่อเข้าทำงานเมื่อสิบห้าปีก่อน เธอพบสเนปแอบฟังอยู่ตรงประตู แฮร์รี่บอกเรื่องนี้ให้ครูใหญ ่ทราบแต่ชายชราก็ยังปกป้องสเนปเหมือนกับที่ทำทุกครั้งซึ่งทำให้แฮร์รี่โกรธ แต่ดัมเบิลดอร์บอกแฮร์รี่ว่า เขาจะไปหากล่องวิญญาณอีกอันหนึ่งและให้แฮร์รี่ไปด้วย ก่อนไปครูใหญ่ขอให้เด็กหนุ่มสัญญาว่าจะทำตามที่เขาสั่งเช่น ซ่อนตัว วิ่ง หรือ หนี แฮร์รี่จำต้องรับคำ ทั้งสองคนไปถึงถ้ำแห่งหนึ่ง การจะเปิดถ้าต้องใช้เลือด ซึ่งดัมเบิลดอร์เป็นผู้ทำเอง โดยไม่ยอมให้แฮร์รี่ทำ ภายในถ้ำมีบ่อน้ำใหญ่มีเกาะตรงกลาง มีเรือลำหนึ่งซึ่งทั้งคู่ใช้ไปที่เกาะ แฮร์รี่สังเกตว่า ในน้ำมีศพคนตาย ดัมเบิลดอร์บอกว่าเป็นผีดิบที่โวลเดอมอร์จะเรียกใช้งาน การที่จะปราบผีดิบพวกนี้ต้องใช้ไฟ เมื่อถึงกลางเกาะก็เห็นมีแท่นหินตั้งอยู่ บนแท่นมีอ่างที่มีน้ำยา ดัมเบิลดอร์แน่ใจว่ากล่องวิญญาณน่าจะอยู่ในอ่าง ดัมเบิลดอร์บอกว่า การที่จะเอากล่องบรรจุวิญญาณจะต้องดื่มน้ำยาให้หมด เขาเป็นคนกินยาเอง เมื่อกินเข้าไป ทำให้เหมือนฝันร้าย แฮร์รี่พยายามให้เขากินยาจนหมดตามที่ได้รับคำสั่ง จนกระทั่งยาแห้ง แต่ดัมเบิลดอร์แทบ ไม่มีแรงเหลือ แต่ก็ยังเอาจี้ในอ่างมาได้ แฮร์รี่ถูกผีดิบโจมตีแต่ดัมเบิลดอร์รวบรวมกำลังเสกไฟขับไล่ และพาแฮร์รี่กลับมาฮอกส์มี้ด ที่นั่นพวกเขาพบตรามารบนฟ้า ทั้งสองคนใช้ไม้กวาดบินกลับไปที่ปราสาท โดยที่ดัมเบิลดอร์บอกให้แฮร์รี่ใช้ผ้าคลุมล่องหน เขาพบเดรโกอยู่ที่หอคอยแห่งหนึ่ง ปรากฎว่า เดรโกได้รับคำสั่งจาก โวลเดอมอร์ให้หาทางพาผู้เสพความตายเข้ามาในปราสาทด้วยตู้ที่มอนทาคิวเคยหลงเข้าไป ตู้นั้นมีทางติดต่อระหว่าง ปราสาทกับร้าน บอร์เจนและเบิร์ก ซึ่งขณะนี้ผู้เสพความตายกำลังสู้อยู่กับพวกภาคี นอกจากนี้เขายังได้รับคำสั่งฆ่า ดัมเบิลดอร์แต่ไม่สำเร็จ เขายังใช้คาถาสะกดใจกับมาดามโรสเมอร์ทาให้ร่วมมือโดยที่เธอไม่รู้ตัว ระหว่างนั้นมี ผู้เสพความตายเข้ามาและใช้พวกมากเข้ารุมจนดัมเบิลดอร์ล้มลง แฮร์รี่กำลังจะเข้าช่วยแต่แล้วสเนปก็เข้ามา สเนปใช้คาถาพิฆาตกับดัมเบิลดอร์ก่อนจะพากันหนี แฮร์รี่ตามสเนปไป เขาพยายามใช้คาถาที่ได้มาจากโน้ต แต่กลับใช้กับสเนปไม่สำเร็จ สเนปบอกว่าโน้ตนั้นเป็นของเขาเอง ผู้เสพความตายหลายคนหนีไปได้รวมทั้งสเนป กับเดรโกด้วย แฮร์รี่มาพบภายหลังว่า จี้นั้นเป็นของปลอมด้วยข้อความบางอย่างที่ลงชื่อว่า R.A.B บิลถูกผู้เสพความตายคนหนึ่งซึ่งเป็นมนุษย์หมาป่าทำร้ายแต่เฟลอร์ยืนยันว่าจะแต่งงานกับเขา ซึ่งนี่เป็นเหตุให้ลูปินยอมรับน้ำใจของท็องส์ด้วย เฮอร์ไมโอนี่บอกว่า พบเรื่องของแม่สเนปที่นามสกุลเก่าคือ Prince และแต่งงานกับมักเกิ้ล เหตุที่สเนปทิ้งตำราไว้ที่ห้องทำงานเพราะเกรงจะถูกดัมเบิลดอร์จับได้นั่นเอง ส่วนการที่ไม่มีใครจับพิรุธเขาได้เนื่องจากความเชี่ยวชาญในการกำบังจิต ดังนั้นสเนปก็คือ Half-Blood Prince ส่วนการที่ไม่พบร่องรอยของเดรโกก็เพราะใช้ของบางอย่างจากร้านของเฟร็ดกับจอร์จ นั่นเอง งานศพของดัมเบิลดอร์ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และเศร้าสลด มีผู้มาไว้อาลัยกันมากมายรวมทั้งพวกเงือกกับเซนทอร์ แฮร์รี่ตกลงใจว่าจะไม่กลับมาเรียนในปีหน้าแต่จะไปกอดริก ฮอลโลว์ที่บ้านเดิมเพื่อหากล่องวิญญาณที่น่าจะอยู่ที่นั่น รอนกับเฮอร์ไมโอนี่บอกว่าจะไปด้วยกันอย่างเคย ....

หนัง

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 1

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 2

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 3

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 4

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 5

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 6

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 7


แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์

แฮร์รี่ พอตเตอร์ อายุสิบห้าปี ไม่ได้ข่าวคราวจากโลกเวทมนตร์ตลอดช่วงปิดเทอมแม้จะคอยแอบฟังข่าวนอกหน้าต่างห้องนั่งเล่นของพวกเดอร์สลีย์ก็ตาม เขาหลบไปอยู่ที่ถนนแม็กโนเลียหลังจากถูกพวกเดอร์สลีย์ว่ากล่าว ระหว่างนั่งเล่นอยู่ที่ชิงช้า แฮร์รี่เจอดัดลีย์กับเพื่อน จึงระบายอารมณ์โดยหาเรื่องกับดัดลีย์ ขณะที่ทั้งสองกำลังทะเลาะกัน ผู้คุมวิญญาณสองตนก็เข้ามาจู่โจมจนดัดลีย์เกือบได้รับจุมพิตถ้าแฮร์รี่ไม่เสกคาถาผู้พิทักษ์ช่วยไว้เสียก่อน หลังจากนั้นมิสซิส ฟิกก์ หญิงแก่ที่แฮร์รี่เคยไปอยู่ด้วยเมื่อเดอร์สลีย์ให้ไปอยู่นอกบ้านก็มาพาพวกเขากลับบ้าน ปรากฏว่ามิสซิส ฟิกก์เป็นสควิบที่คอยติดตามดูแฮร์รี่ตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์ และมีผู้ช่วยคือ มันดังกัส เฟลชเชอร์ เหตุการณ์นี้ทำให้แฮร์รี่ได้รับจดหมายจากกระทรวงเวทมนตร์แจ้งว่าเขาจะต้องถูกสอบสวนข้อหาใช้เวทมนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจถูกไล่ออกจากโรงเรียนและหักไม้กายสิทธิ์ พวกเดอร์สลีย์เมื่อเห็นสภาพของดัดลีย์ตอนที่แฮร์รี่พยุงเข้ามาในบ้าน ก็ต่อว่าแฮร์รี่และพยายามจะไล่แฮร์รี่ออกไป แต่ทันใดนั้นเอง นกฮูกตัวหนึ่งก็นำจดหมายกัมปนาทมาให้เพ็ตทูเนีย จดหมายพูดเสียงดังก้องว่า "จำคำฉันไว้" ดัดลีย์พยายามจะให้แฮร์รี่ออกจากบ้านแต่ เพ็ตทูเนียบอกว่าไม่ได้ คืนวันหนึ่งพวกเดอร์สลีย์ไม่อยู่บ้าน คนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มภาคีนกฟีนิกซ์(กลุ่มที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านโวลเดอมอร์, โดยมี อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เป็นหัวหน้า รวมไปถึง ท็องส์, แม้ด-อาย มู้ดดี้, รีมัส ลูปิน, คิงสลีย์ ชักเคิ้ลโบลต์, เอลเฟียส ดอจ์, ดีดาลัส ดิกเกิ้ล, เอมมาลีน แวนซ์ ,สเตอกีส พอดมอร์ ได้รับรับคำสั่งให้พาแฮร์รี่ไปที่ บ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์ เพลซ ซึ่งเป็นบ้านของซีเรียส และเป็นที่ที่ภาคีประชุมกัน บ้านนี้ยังมีครอบครัววีสลีย์ ซึ่งมาช่วยทำความสะอาดบ้าน เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และคนอื่นๆ เช่น เซเวอรัส สเนป(ซึ่งไม่ค่อยมาเท่าไร), ครีเชอร์ (เอลฟ์ ประจำบ้านที่ดูถูก และไม่ชอบใครๆเลย โดยเฉพาะพวกเลือดสีโคลน)หลังจากนั้น รอน วีสลีย์ และเฮอร์ไมโอนี่ก็เล่าทุกอย่างให้แฮร์รี่ฟังว่าทำไมพวกเขาถึงส่งจดหมายถึงแฮร์รี่ไม่ได้ และการประชุมลึกลับที่ เฟรด กับ จอร์จ วีสลีย์ ใช้หูยืดยาวแอบฟังแต่ตอนหลังโดนจับได้ ระหว่างที่อยู่บ้าน เดอร์สลีย์ กับซิเรียส แฮร์รี่ฝันถึงประตูแปลกประหลาดบานหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป แต่เขาก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ จนเมื่อถึงวันที่ แฮร์รี่ต้องไปฟังคำพิพากษา มิสเตอร์วีสลีย์ เป็นคนไปส่งโดยใช้วิธีที่เขาไม่เคยใช้มาก่อนในการเข้าไปในที่ทำงาน เมื่อไปถึงแฮร์รี่สังเกตเห็นประตูบานหนึ่งที่คล้ายกับที่เขาฝัน เป็นครั้งแรกที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับหน้าที่แปลกประหลาดใหม่ในกระทรวงนั่นก็คือ ผู้ปิดปากเงียบ ในระหว่างการฟังคำพิพากษาทำนาย ดัมเบิลดอร์เป็นผู้ช่วยให้แฮร์รี่ รอดจากทุกอย่าง แต่มีบางสิ่งแปลกไปเมื่อเขาพยายามจะเรียกดัมเบิลดอร์เพื่อขอบคุณ แฮร์รี่กลับไปที่โรงเรียนฮอกวอตส์ และพบว่ากระทรวงพยายามจะยึดครองฮอกวอตส์และปิดข่าวเกี่ยวกับการกลับมาของโวลเดอมอร์ แฮร์รี่ถูกมองเป็นตัวประหลาด ดัมเบิลดอร์ถูกยึดเหรียญตรา และถูกถอดถอนจากตำแหน่งต่าง ๆ แต่ยังมิได้ละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ใหญ่แห่งฮอกวอตส์ ปีการศึกษาที่ห้าเริ่มต้นด้วยการประกาศข่าวโดยดัมเบิลดอร์ว่าอาจารย์ป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่คือ โดโรเลส อัมบริดจ์ แฮกริดไม่อยู่ที่โรงเรียน เมื่อพวกแฮร์รี่ มีช่วงเรียน กับอัมบริดจ์ เธอไม่ยอมให้ใครเรียนเกี่ยวกับการป้องกันตัวแบบปฏิบัติ แต่ให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการป้องกันตัวแทน นักเรียนหลายคนประท้วงเรื่องนี้ จนแฮร์รี่พูดออกมาว่าโวลเดอมอร์กลับมา อัมบริดจ์ลงโทษกักบริเวณแฮร์รี่และให้คัดลายมือกับเธอในออฟฟิศ หลังจากที่แฮร์รี่กลับเข้ามาในห้องรวมกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ห็นรอยแดงบนมือของแฮร์รี่ ซึ่งเกิดจากปากกาขนนกที่เขียนด้วยเลือดแทนหมึก พวกแฮร์รี่ทนไม่ไหวที่แต่ละวันไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการป้องกันตัวแบบจริงๆ เฮอร์ไมโอนี่วางแผนทั้งหมดให้แฮร์รี่เป็นหัวหน้าของทีม และมีคนหลายคนที่มาเข้าร่วมโดยทำการลับๆใน ห้องต้องประสงค์ภายใต้ชื่อทีมว่า กองทัพ ดัมเบิลดอร์ พวกเขาเรียนการป้องกันตัวจริงๆในห้องนั้น เรียนคาถาเดียวกับที่แฮร์รี่ทำได้ เช่น คาถาเสกผู้พิทักษ์ และเรียนจากหนังสือที่เฮอร์ไมโอนี่ได้มาจากห้องสมุด ไม่นานหลังจากที่ อัมบริดจ์ตั้งกฎมากมายเพื่อต่อต้านโรงเรียน เธอเองได้รับแต่งตั้งให้เป็นคนตรวจการเรียนการสอนของอาจารย์แต่ละคน หลังจากที่ประมวลผลออกมาแล้ว ซีบิล ทรีลอว์นีย์ ถูกไล่ออก แต่ดัมเบิลดอร์ออกมาช่วยเหลือ อัมบริดจ์รู้แผนการของแฮร์รี่จึงออกกฎห้ามการรวมกลุ่มโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม และเธอก็จัดกลุ่มของเธอเพื่อคอยตรวจสอบความประพฤติของนักเรียนแทนเธอ รวมทั้งคอยจับตาดูแฮร์รี่ พอตเตอร์ กลุ่มนักเรียนของเธอรวมไปถึง แครบ กอยล์ และ เดรโก มัลฟอย ซึ่งคอยจับตาดูและพยายามจะเข้าไปในห้องต้องประสงค์ และวันนั้นก็มาถึง พวกอัมบริดจ์และมัลฟอยบุกเข้าไปในห้องต้องประสงค์ได้โดยมีหนอนบ่อนไส้ กองทัพดัมเบิลดอร์หนีกันออกไปเหลือแต่แฮร์รี่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ หลังจากนั้นแฮร์รี่ถูกคัดออกจากทีมควิชดิชไม่ให้เล่นเป็นซีกเกอร์ ทุกครั้งที่แฮร์รี่พูดถึงโวลเดอมอร์ อัมบริดจ์จะให้บทลงโทษกับแฮร์รี่อย่างเคย จนแผลเป็นบนหลังมือของเขาปรากฏชัดขึ้น คืนหนึ่งแฮร์รี่ฝันเห็นว่าโวลเดอมอร์กำลังทำร้ายมิสเตอร์วีสลีย์ เขาเรียกรอนซึ่งคิดว่าเป็นแค่ฝัน แต่มักกัลนากัล เกรงว่าจะเป็นเรื่องจริง จึงส่งพวกเขากลับไปที่ กริมโมลด์ เพลซ ต่อมาพวกเขาได้ไปเยี่ยม มิสเตอร์ วีสลีย์ที่โรงพยาบาลเซ็นต์ มังโก ในโรงพยาบาลยังพบพ่อแม่ของเนวิลล์ และ กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต หลังจากที่เยี่ยมเสร็จแล้ว พวกเขาก็กลับมาที่ฮอกวอตส์อีกครั้ง ฟีเรนเซ่ (เซ็นทอร์)มาเป็นอาจารย์สอนการทำนายคนใหม่แทนทรีลอว์นีย์ การเรียนก็หนักขึ้นสำหรับแฮร์รี่เมื่อเขาต้องเรียนวิชาพิเศษ และฝึกคาถาสกัดใจกับสเนป เพื่อไม่ให้โวลเดอมอร์อ่านใจเขาได้ แต่ก็ดูจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เมื่อแฮร์รี่ทนไม่ไหวเขาจึงสะท้อนคาถากลับเข้าสเนป ทำใหได้เข้าไปในความทรงจำฝังใจของสเนป หลังจากการฝึกอันสาหัส การสอบ ว.พ.ร.ส กำลังมาถึง พวกปีห้าทั้งหมดถูกตั้งคำถามว่าอยากเป็นอะไรในอนาคต เพื่อเป็นแนวทางว่าเขาต้องเรียนอย่างไรต่อไป แฮร์รี่อยากเป็น มือปราบมาร ดัมเบิลดอร์ถูกขับไล่จากโรงเรียนแต่เขาหนีได้อย่างสง่างาม การสอบมาถึง เป็นเวลาเดียวกับที่ เฟร็ดและจอร์จ เริ่มวางแผนเกี่ยวกับการออกจากโรงเรียนก่อนจบปีเจ็ด ระหว่างสอบมีการต่อสู้เกิดขึ้น เฟร็ดกับจอร์จ จัดการให้อัมบริดจ์ปั่นป่วนและหัวหมุนอย่างหนัก และขี่ไม้กวาดออกจากโรงเรียนไปซึ่งทุกคนในโรงเรียนได้เห็น แฮกริดถูกไล่ออกเมื่อเขากลับมาหลังจากแฮร์รี่เข้าเรียนมาประมาณสองสามเดือน แต่ได้บอกเกี่ยวกับกรอพว์น้องยักษ์ของเขาไว้ รวมทั้งเล่าเรื่องราวที่เขาหายตัวไปหลายเดือนว่าได้รับคำสั่งจากดัมเบิลดอร์ให้ไปชักชวนยักษ์มาเป็นพวก คืนหนึ่งแฮร์รี่ฝันว่าซิเรียสถูกทำร้ายอย่างรุนแรงเขาบอกพวกรอน และ เฮอร์ไมโอนี่ และบอก กลุ่ม ก.ด. บางคน จินนี่ วีสลีย์, ลูน่า เลิฟกู๊ด, กับ เนวิลล์ ลองบัทท่อม เพื่อช่วยให้เขาเข้าไปใช้เตาผิงที่ไม่ถูกดัก เพื่อติดต่อว่าฝันของเขาเป็นความจริงหรือไม่ ระหว่างนั้นเจอครีเชอร์ซึ่งบอกว่าซิเรียสไม่อยู่ ไม่นานเขาถูกจับโดยอัมบริดจ์กับพวกมัลฟอย จัดการพวกของเขาที่คอยดูข้างนอก เฮอร์ไมโอนี่ หลอกอัมบริดจ์ว่าดัมเบิลดอร์ซ่อนอาวุธไว้ในป่าและพาเธอเข้าไปเจอกรอพว์ พวกเซนทอร์โจมตีอัมบริดจ์ เธอด่าพวกนั้นกลับไป จึงถูกจับไปลงโทษ กลับไปในปราสาททุกคนหนีออกมาจากเงื้อมมือของพวกมัลฟอยได้ และตัดสินใจจะบินไปที่ กระทรวงโดยเธรสตอล เมื่อไปถึงเขาหาห้องที่อยู่ในฝันและพบว่าสิ่งที่โวลเดอมอร์ต้องการคือลูกแก้วแห่งคำทำนาย พวกผู้เสพความตายเข้ามาโจมตี และบอกว่าเป็นกับดัก ซิเรียสเข้ามาช่วยแฮร์รี่ได้ทันก่อนแฮร์รี่จะให้ลูกแก้วแก่ ลูเซียส มัลฟอยไป พวกภาคีเข้ามาช่วยอีกกลุ่ม เบลลาทริกซ์ เลสเตรนจ์ ต่อสู้กับ ซิเรียส และทำให้ซีเรียสตกเข้าไปในม่านแปลกม่านหนึ่ง แฮร์รี่มารู้ตอนหลังว่าซิเรียสได้ตายจากเขาไปแล้ว โวลเดอมอร์เผชิญหน้ากับดัมเบิลดอร์ตอนหลัง และโวลเดอมอร์ก็หายไป ในขณะเดียวกับที่ ฟัดจ์ กับคนในกระทรวงกลุ่มหนึ่งมาเห็นพอดี ดัมเบิลดอร์บอกว่ามีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับโวลเดอมอร์กับแฮร์รี่ เขาจึงไม่ต้องการมองหรือคุยกับแฮร์รี่เพราะโวลเดอมอร์อาจรู้ได้ และบอกด้วยว่า สงครามเริ่มขึ้นแล้ว

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ 1

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ 2

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ 3

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ 4

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี

แฮร์รี่ถูกคุกคามด้วยฝันร้าย ทำให้แผลเป็นของเขาเจ็บอย่างมาก เขาได้ไปชมการแข่งขัน ควิดดิชเวิลด์คัพกับ รอน วีสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เพื่อนรักในขณะการแข่งขันควิดดิช ได้เกิดลางบางอย่างเหนือท้องฟ้าที่ตั้งแคมพ์ผู้ชมการแข่งขัน คือตรามาร สัญลักษณ์ของลอร์ดโวลเดอมอร์ ซึ่งถูกเสกขึ้นมาโดยผู้เสพความตาย สาวกของเขาซึ่งไม่เคยกล้าปรากฏตัวในที่สาธารณะ ตั้งแต่ครั้งที่มีผู้เห็น โวลเดอมอร์ เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อสิบสามปีก่อน ในคืนที่เขาสังหารพ่อแม่ของแฮร์รี่ ดัมเบิลดอร์ประกาศว่า ฮอกวอตส์จะเป็นเจ้าภาพการประลองเวทไตรภาคี การแข่งขันด้านเวทมนตร์ของพวกพ่อมดแม่มด ซึ่งจะมีตัวแทนหนึ่งคนจะถูกคัดเลือกจากแต่ละโรงเรียน ในสามสถาบันพ่อมดแม่มดที่ใหญ่ และมีชื่อเสียงที่สุด โดยมีตัวแทนแข่งขันจากโรงเรียนเวทมนตร์คาถาโบซ์บาตง และหนุ่มๆ ที่ดูลึกลับและน่าเกรงขาม จากโรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ เพื่อเข้าแข่งขันในหลากหลายภารกิจ ที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เพื่อครอบครองถ้วยรางวัลไตรภาคี บาร์ตี้ เคร้าช์ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเวทมนตร์ และศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เป็นประธานพิธีประชุมกลางแสงเทียน ถ้วยอัคนีคัดเลือกนักเรียนหนึ่งคน จากแต่ละโรงเรียนเพื่อเข้าแข่งขัน โดยถ้วยอัคนีได้ขานนาม วิคเตอร์ ครัม นักกีฬาควิดดิชชื่อดังจากเดิร์มสแตรงก์ ตามมาด้วย เฟลอร์ เดอลากูร์ ผู้งามสง่าจากโบซ์บาตง และท้ายที่สุด เซดริก ดิกกอรี่ หนุ่มเนื้อหอมผู้สามารถแห่งฮอกวอตส์ และสุดท้ายคือชื่อของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ด้วยอายุ 14 ปี แฮร์รี่ยังขาดอีกสามปี จึงจะมีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ แฮร์รี่ยืนกรานว่าไม่ได้ใส่ชื่อตัวเองลงไปในถ้วย และเขาไม่อยากเข้าแข่งขัน แต่การตัดสินใจของถ้วยอัคนีนั้นถือเป็นข้อผูกพัน และเขาต้องเข้าร่วมแข่งขันด้วย นักข่าวจอมสาดโคลนอย่าง ริต้า สกีตเตอร์ โหมกระพือไฟใส่สีอยู่เบื้องหลังแฮร์รี่ ด้วยคอลัมน์ซุบซิบที่หวือหวาของเธอ จนแม้กระทั่งรอนเองยังเชื่อว่าเพื่อน "ที่อยากดัง" ของเขา ได้ใช้อุบายหลอกให้ถ้วยเลือกชื่อเขาขึ้นมา แต่ด้วยความกังขาสงสัยนี้ ว่าใครก็ตามที่ใส่ชื่อของแฮร์รี่ ลงไปในการประลอง มีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ดัมเบิลดอร์จึงขอให้ อลาสเตอร์ 'แม้ด-อาย' มู้ดดี้ อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดผู้แปลกประหลาด ช่วยใช้ตาวิเศษที่เฉียบคมของเขา จับตาพ่อมดวัยรุ่นไว้ในการประลองเวทไตรภาคี แฮร์รี่ได้หลบหลีกให้พ้นจากมังกรพ่นไฟ การดำดิ่งสู่ก้นบึ้งทะเลสาบใหญ่ และการหาทางเดินในเขาวงกตที่มีชีวิตแฮร์รี่ การรับมือกับมังกร ชาวเงือก และกรินดี้โลว์ หลังจากการแข่งขันจบลง เขาได้ขอนัดกับ โช แชงไปงานเต้นรำ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นลางร้าย เมื่อมีใครคนหนึ่งถูกฆ่าตาย ในบริเวณโรงเรียนฮอกวอตส์ ด้วยความหวาดกลัว และถูกหลอนด้วยความฝันเรื่องโวลเดอมอร์ แฮร์รี่จึงหันไปหาดัมเบิลดอร์ แต่แม้กระทั่งอาจารย์ใหญ่ผู้น่านับถือ ก็ยังยอมรับว่าไม่มีคำตอบง่ายๆ ให้อีกต่อไปแล้วในขณะที่แฮร์รี่และตัวแทนคนอื่นๆ ต้องรับมือกับภารกิจสุดท้าย และกิ่งก้านสาขาที่งอกอย่างรวดเร็วของเขาวงกตที่น่ากลัว บางคนหรือบางสิ่งกำลังจับตามองอยู่ พวกเขามองเห็นชัยชนะอยู่เบื้องหน้า แต่เมื่อเข้าไปใกล้ถ้วยไตรภาคี ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น

หนัง

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 1

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 2

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 3

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 4

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 5

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 6

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 7


แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน


เรื่องเริ่มต้นที่แฮร์รี่ซึ่งต้องใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียนอยู่ที่บ้านเดอร์สลีย์เช่นเดียวกับปีที่ผ่านๆ มา ได้เห็นข่าวเกี่ยวกับนักโทษแหกคุกคนหนึ่งชื่อ ซิเรียส แบล็ก เมื่อป้ามาร์จพี่สาวของลุงเวอร์นอนมาเยี่ยมครอบครัวเดอร์สลีย์ และพูดจาถากถางดูถูกแฮร์รี่และพ่อแม่ แฮร์รี่โกรธจัดจนทำให้ป้ามาร์จตัวพองขึ้นเรื่อยๆ และลอยหายไป ทำให้เขาต้องหนีออกจากบ้านเพราะรู้ว่าทำผิดกฎหมายในข้อหาใช้เวทมนตร์โดยอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ที่ถนนนอกบ้าน เขาเห็นสุนัขสีดำตัวใหญ่เฝ้ามองเขาอยู่ แต่ทันใดนั้นรถเมล์อัศวินราตรีก็ปรากฏขึ้นและพาเขาไปส่งที่ตรอกไดแอกอน ระหว่างการเดินทาง แฮร์รี่เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ที่กล่าวถึงแบล็กว่าฆ่าคนถึงสิบสามคนด้วยคำสาปเดียว และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนลอร์ดโวลเดอมอร์ แฮร์รี่ได้พบกับคอร์นีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งเขาคิดว่าตัวเองคงต้องถูกไล่ออกจากฮอกวอตส์แน่ๆ เพราะทำผิดกฎหมาย แต่การณ์กลับเป็นว่าไม่มีใครสนใจเรื่องนั้นอีก ที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว แฮร์รี่ได้ยินนายและนางวีสลีย์เถียงกันว่าน่าจะต้องเตือนเขาเกี่ยวกับแบล็กหรือไม่เมื่อแฮร์รี่เริ่มเรียนชั้นปีที่สาม ที่ฮอกวอตส์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เรื่องหนึ่งก็คือดูเหมือนว่าเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์มีวิชาเรียนทุกวิชา โดยบางวิชามีเวลาเรียนตรงกันด้วย นอกจากนี้ก็มีอาจารย์ใหม่มาสอนสองท่าน คือศาสตราจารย์รีมัส เจ.ลูปิน ซึ่งสอนวิชาป้องกันศาสตร์มืด และรูเบอัส แฮกริด สอนวิชาสัตว์วิเศษ การสอนของลูปินสนุกสนานมากในขณะที่ของแฮกริดออกจะน่าเบื่อ ในชั้นเรียนวันแรก เดรโก มัลฟอยเข้าไปแหย่ตัวฮิปโปกริฟ(สัตว์ครึ่งม้าครึ่งนก)ชื่อบัคบีกที่แฮกริดนำมาสอน จึงถูกบัคบีกทำร้าย ทำให้ลูเซียสพ่อของมัลฟอยผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในกระทรวงและคณะผู้ปกครองของฮอกวอตส์ยื่นคำร้องให้ประหารบัคบีก การที่แบล็กยังคงลอยนวลอยู่ ทำให้ทางกระทรวงส่งผู้คุมวิญญาณซึ่งเป็นผู้คุมนักโทษที่คุกอัซคาบัน มาคุ้มกันฮอกวอตส์ ผู้คุมวิญญาณทำให้ความสุขหมดสิ้นในทุกแห่งที่มันไปถึง ซึ่งส่งผลต่อแฮร์รี่เป็นอย่างมาก ตั้งแต่ที่เห็นมันเป็นครั้งแรกเมื่อตอนเปิดเทอมระหว่างนั่งรถไฟไปฮอกวอตส์ และมันทำให้เขาถึงกับหมดสติไป ศาสตราจารย์ลูปินจึงสอนคาถาผู้พิทักษ์ซึ่งสามารถไล่ผู้คุมวิญญาณไปได้ให้แก่แฮร์รี่ ในการแข่งขันควิดดิช มีผู้คุมวิญญาณมากลุ้มรุมแฮร์รี่ ทำให้เขาหมดสติและหล่นจากไม้กวาด ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ช่วยเขาไว้ได้ แต่ไม้กวาดนิมบัส 2000 หลุด เข้าไปใกล้ต้นวิลโลว์จอมหวดและโดนหวดจนพังยับเยินในช่วงเดียวกันนี้ เฮอร์ไมโอนีกับรอนก็มีเรื่องขัดแย้งกัน เพราะครุกแชงส์ แมวของเฮอร์ไมโอนีชอบไล่จับสแคบเบอร์หนูของรอน ช่วงคริสต์มาสมีคนส่งของขวัญเป็นไม้กวาดไฟร์โบลต์มาให้แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนีคิดว่าแบล็กเป็นคนส่งมาและอาจเป็นอันตราย จึงไปบอกศาสตราจารย์มักกอนนากัล ซึ่งยึดไม้กวาดไปตรวจสอบและส่งคืนให้แฮร์รี่ทันการแข่งขังควิดดิชครั้งต่อไปกับทีมราเวนคลอ แฮร์รี่กับรอนโกรธเฮอร์ไมโอนีมาก แต่เมื่อได้ไม้กวาดคืนก็พยายามขอคืนดี แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายเมื่อรอนพบว่าสแคบเบอร์หายไป และมีเลือดกับขนแมวเปื้อนผ้าปูที่นอน แล้วเฮอร์ไมโอนีไม่เชื่อว่าแมวของเธอเป็นต้นเหตุ ก่อนคริสต์มาสเล็กน้อย ฝาแฝดวีสลีย์มอบแผนที่ตัวกวนให้แฮร์รี่ มันเป็นแผนที่ของฮอกวอตส์ซึ่งแสดงชื่อของคนและสัตว์ทั้งหมดที่เคลื่อนที่อยู่ภายในฮอกวอตส์ แฮร์รี่ใช้แผนที่นี้หาทางไปฮอกส์มี้ดเพราะเขาไม่มีจดหมายอนุญาตจากผู้ปกครอง ทำให้ไม่สามารถไปพร้อมกับคนอื่นๆ ได้ ที่ฮอกส์มี้ด แฮร์รี่ได้ฟังการสนทนาเกี่ยวกับแบล็กที่รบกวนจิตใจเขาเป็นอย่างมาก เพราะปรากฏว่าแบล็กเป็นเพื่อนรักของพ่อแม่ของเขาและเป็นพ่อทูนหัวของเขา แต่กลับบอกที่ซ่อนครอบครัวพอตเตอร์จนลอร์ดโวลเดอมอร์ตามมาพบและเป็นผู้ฆ่าปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ เพื่อนอีกคนหนึ่ง รวมทั้งมักเกิ้ลที่เห็นเหตุการณ์อีกสิบสามคนด้วย ระหว่างที่แฮร์รี่คุยกับศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ เธอก็ตกอยู่ในห้วงภวังค์และทำนายว่าผู้รับใช้จอมมารจะกลับมาหาเขาในคืนนั้น ส่วนเฮอร์ไมโอนีก็พยายามช่วยแฮกริดเรื่องบัคบีก ซึ่งทำให้แฮร์รี่และรอนมาคืนดีด้วย การที่รอนเสนอตัวช่วยทำให้เธอดีใจจนเข้าไปกอดเขาและขอโทษเรื่องหนู เมื่อทั้งสามคนรู้ว่าบัคบีกต้องถูกสังหาร ก็พากันไปหาแฮกริดเพื่อปลอบใจ ระหว่างนั้นสแคบเบอร์โผล่ขึ้นมา และครุกแชงส์ไล่มันไปถึงต้นวิลโลว์จอมหวด ก็มีหมาใหญ่ก็กระโจนใส่รอนและลากเขากับสแคบเบอร์เข้าไปในโพรงแถวโคนต้นไม้ แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนีตามเข้าไปพบว่าเป็นอุโมงค์ไปโผล่ที่เพิงโหยหวน ที่นั่นเอง แฮร์รี่ได้เผชิญหน้ากับซิเรียส แบล็ก ซึ่งเป็นแอะนิเมจัส สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ ลูปินซึ่งเห็นชื่อของทุกคนในแผนที่ตัวกวนก็ตามมาและตรงเข้าสวมกอดแบล็กเพื่อนเก่า พร้อมทั้งยอมรับที่เฮอร์ไมโอนีบอกว่าเขาเป็นมนุษย์หมาป่า และเล่าว่าพวกเขาสี่คน ลูปิน แบล็ก เพ็ตติกรูว์ และเจมส์ พอตเตอร์เป็นผู้ทำแผนที่ตัวกวนขึ้นมาเอง สองคนหลังก็เป็นแอะนิเมจัสเช่นกัน โดยแปลงร่างเป็นหนูและกวางตามลำดับ ลูปินและแบล็กอธิบายว่าสแคบเบอร์จริงๆ แล้วก็คือปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ ซึ่งรับใช้ลอร์ดโวลเดอมอร์และทรยศครอบครัวพอตเตอร์แล้วใส่ร้ายแบล็ก แฮร์รี่ยังสงสัยจนกระทั่งแบล็กและลูปินจัดการให้เพ็ตติกรูว์คืนร่างเป็นคนได้ แบล็กเล่าว่าเขาพบว่าเพ็ตติกรูว์ยังมีชีวิตอยู่จึงหนีออกจากคุกอัซคาบันเพื่อตามฆ่ามัน แบล็กและแฮร์รี่สนิทกันอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทุกคนมุ่งหน้ากลับปราสาท พระจันทร์เต็มดวงขึ้นมาพอดี ทำให้ลูปินต้องกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า และแบล็กกลายร่างเป็นหมาใหญ่เพื่อช่วยยับยั้งไม่ให้ลูปินทำอันตรายคน เพ็ตติกรูว์ก็ฉวยโอกาสหลบหนีไป ลูปินหนีไปได้ ส่วนแบล็กบาดเจ็บสาหัส และพวกผู้คุมวิญญาณก็จะเข้ามาจัดการ แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนีเห็นบุคคลลึกลับผู้หนึ่งอยู่ไกลๆ เสกคาถาผู้พิทักษ์ออกมาเป็นกวาง ขับไล่พวกผู้คุมวิญญาณไปจนหมด แฮร์รี่เชื่อว่าคนคนนั้นต้องเป็นพ่อของเขาเพราะจำได้ว่าพ่อแปลงเป็นกวางได้ จากนั้นแบล็กก็ถูกจับกลับไปที่ปราสาทซึ่งพวกผู้คุมวิญญาณเตรียมจุมพิตดูดวิญญาณไว้รอเขาแล้ว ดัมเบิลดอร์พูดเป็นปริศนาว่าสองชีวิตจะรอดในคืนนั้น และหมุนสามรอบน่าจะใช้ได้ เฮอร์ไมโอนีจึงเผยความลับกับแฮร์รี่ว่าเธอมีนาฬิกาย้อนเวลาซึ่งทำให้เข้าเรียนได้ทุกวิชา ทั้งสองพากันย้อนเวลากลับไปสามชั่วโมง เฝ้าดูพวกตัวเองจนถึงเวลาเหมาะจึงเข้าไปปล่อยบัคบีก และกลับไปที่วิลโลว์จอมหวด ขณะที่ผู้คุมวิญญาณกำลังจะจัดการแฮร์รี่และแบล็ก"อีกคู่หนึ่ง" แฮร์รี่ก็รอให้พ่อของเขาปรากฏตัว และแล้วเขาก็ตระหนักว่าบุคคลลึกลับผู้นั้นคือตัวเขาเอง จึงเสกคาถาผู้พิทักษ์ออกมาขับไล่พวกผู้คุมวิญญาณไป จากนั้นทั้งคู่ก็ขี่บัคบีกกลับไปปราสาท และให้แบล็กขี่บัคบีกหนีไป แล้วสองคนก็กลับมาที่เดิมทันเวลาพอดี แฮร์รี่ผิดหวังมากที่ไม่สามารถไปอยู่กับพ่อทูนหัวได้ แต่ก็รู้สึกดีที่รู้ว่าแบล็กปลอดภัย แถมยังถือโอกาสขู่ลุงเวอร์นอนได้ด้วยว่า หากแฮร์รี่ฟ้องว่าลุงใจร้ายกับเขา พ่อทูนหัวซึ่งเป็นฆาตกรโหดย่อมไม่ลังเลที่จะลงมือจัดการลุงเวอร์นอนอย่างแน่นอน

หนัง

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน1

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน 2

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน 3

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน 4

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน 5

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน 6


วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ


เรื่องเริ่มต้นด้วยการที่แฮร์รี่ถูกครอบครัวเดอร์สลีย์ปฏิบัติเหมือนบุคคลอันตราย การที่แฮร์รี่พบว่าไม่มีเพื่อนคนไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นรอนหรือเฮอร์ไมโอนี่เขียนจดหมายมาหาเขา และนัดมื้อเย็นสำคัญของลุงเวอร์นอนกับลูกค้าของเขา ในขณะนั้นด๊อบบี้เอลฟ์ประจำบ้านก็ปรากฏตัวต่อให้แฮร์รี่ในขณะที่เขาซ่อนอยู่นห้องนอนตามคำสั่งของลุงเวอร์นอน ด๊อบบี้มาเพื่อเตือนแฮร์รี่ไม่ให้กลับไปเรียนที่ฮอกวอตส์ในปีที่สองเพราะถ้าแฮร์รี่กลับไปที่โรงเรียน ชีวิตของเขาจะเป็นอันตราย แฮร์รี่เพิกเฉยต่อคำเตือนดังกล่าว และพบว่าด๊อบบี้นี่เองที่เป็นคนกักจดหมายของเพื่อนของเขา (รวมถึงของแฮกริด)ไว้และต่อมาทำให้แฮร์รี่ถูกขังไว้ในห้องนอนของเขาเอง เนื่องจากด๊อบบี้ทำลายมื้อเย็นของครอบครัวเดอร์สลีย์โดยทำให้ดูเหมือนว่าแฮร์รี่เป็นคนทำ แต่หลังจากถูกขัง 3 วัน พี่น้องวีสลีย์ (เฟร็ด, จอร์จและรอน) ก็นำรถบินได้ของพ่อมาเพื่อช่วยแฮร์รี่ไปยังบ้านของครอบครัววีสลีย์ 'บ้านโพรงกระต่าย' แฮร์รี่ได้พบกับพ่อแม่ของรอน (นายอาเธอร์และนางมอลลี่ วีสลีย์) และจินนี่ น้องสาวคนเดียวของครอบครัวที่แอบชอบแฮร์รี่ และเขาก็อยู่กับครอบครัววีสลีย์จนกระทั่งพวกเขาไปซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ตรอกไดแอกอน ซึ่งขณะที่อยู่ในร้านหนังสือตัวบรรจงและหยดหมึกนั้น กลุ่มของครอบครัววีสลีย์เผชิญหน้ากับพ่อและลูกชายมัลฟอย ลูเซียสและเดรโก มีปากเสียงกันและจบลงด้วยการชกต่อยกันกลางร้านหนังสือระหว่างนายวีสลีย์และนายมัลฟอย เนื่องจากนายมัลฟอยดูหมิ่นครอบครัวของเฮอร์ไมโอนี่และถูกจับแยกโดยแฮกริดที่บังเอิญเห็นเหตุการณ์ ในวันเปิดเทอม พี่น้องวีสลีย์และแฮร์รี่เดินทางไปยังสถานีรถไฟคิงส์ครอสโดยรถยนต์โดยมีนายวีสลีย์ไปส่ง เพื่อเข้าไปในชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่ (กำแพงต้องมนตร์ที่กั้นระหว่างชานชาลาเก้าและชานชาลาสิบ) ครอบครัววีสลีย์เข้าไปได้ทั้งหมด ยกเว้นรอนและแฮร์รี่ที่ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่กลับชนกำแพง ทั้งสองตัดสินใจนำรถของพ่อบินไปยังฮอกวอตส์ ที่ๆพวกเขาพุ่งเข้าชนต้นวิลโลว์จอมหวดและโดนหวดจนรถเกือบพังและไม้กายสิทธิ์ของรอนหัก จากการกระทำดังกล่าวทำให้แฮร์รี่และรอนเกือบถูกไล่ออก และทำให้แม่ของรอนส่งจดหมายกัมปนาทมาต่อว่ารอนถึงฮอกวอตส์ แฮร์รี่และเพื่อนพบว่าอาจารย์ผู้มารับช่วงสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดต่อจากควีเรลล์ ทาสรับใช้ของโวลเดอมอร์คือพ่อมดนักเขียนชื่อดัง กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต ผู้มีนิสัยหลงรูปลักษณ์และชื่อเสียงของตน และให้ความสนใจกับบุคคลโด่งดังอย่างแฮร์รี่เป็นพิเศษ นอกจากนี้ แฮร์รี่ยังได้พบกับรุ่นน้องปีหนึ่งที่คลั่งไคล้เขาและชอบถ่ายรูปเขาเป็นประจำ คอลิน ครีฟวีย์ซึ่งสร้างความรำคาญใจให้แก่แฮร์รี่ผู้ไม่ชอบชื่อเสียง ชีวิตของแฮร์รี่ยังดำเนินต่อไปอย่างธรรมดาจนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังรับโทษกักบริเวณจากความผิดเมื่อต้นเทอมกับศาสตราจารย์ล็อกฮาร์ตอยู่ แฮร์รี่ได้ยินเสียงจากหลังกำแพงเกี่ยวกับการฆ่า แฮร์รี่ยังคงได้ยินเสียงปริศนาดังกล่าวจนวันฮัลโลวีน ในขณะที่แฮร์รี่และเพื่อนเดินกลับมาจากงานเลี้ยงของผี พวกเขาพบแมวของภารโรงตัวแข็งถูกจับห้อยลงมาจากคบเพลิง โดยมีข้อความเขียนไว้เหนือร่างแมวว่า "ห้องแห่งความลับเปิดออกแล้ว เหล่าศัตรูของทายาท จงระวัง!" เหตุดังกล่าวทำให้เกิดความตื่นตระหนกในเหล่าคณาจารย์และนักเรียนที่รู้ตำนานเกี่ยวกับห้องแห่งความลับเป็นอย่างมาก แฮร์รี่พบว่าห้องแห่งความลับคือตำนานที่เล่าว่าผู้ก่อตั้งที่สี่ของฮอกวอตส์ ซัลลาซาร์ สลิธีรินต้องการให้นักเรียนที่เกิดมาจากครอบครัวผู้วิเศษเท่านั้นเข้ามาเรียนที่ฮอกวอตส์ได้ ซึ่งขัดกับความคิดของผู้ก่อตั้งโรงเรียนคนอื่นๆ จึงทำให้สลิธีรินออกจากโรงเรียนไป แต่ตำนานกล่าวไว้ว่า ก่อนที่เขาจะจากไป ได้สร้างห้องแห่งความลับซ่อนไว้ในตัวปราสาทเพื่อรอว่าสักวันหนึ่งที่จะมีทายาทแห่งสลิธีรินที่แท้จริงเปิดห้องแห่งความลับออกมา และปลดปล่อยปีศาจร้ายที่จะกำจัดผู้วิเศษซึ่งเกิดจากมักเกิ้ล (บุคคลที่ไม่มีอำนาจเวทมนตร์)ให้หมดไปจากโรงเรียน แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่สงสัยมัลฟอยว่าอาจเป็นทายาทแห่งสลิธีริน พวกเขาจึงวางแผนจะปรุงน้ำยาสรรพรสออกมาเพื่อแปลงตัวเข้าไปหามัลฟอย และขุดคุ้ยข้อมูลเรื่องดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ก็มีคนถูกโจมตีมากขึ้นอีกได้แก่คอลิน ครีฟวีย์ และนิกหัวเกือบขาด ผีประจำบ้านกริฟฟินดอร์ แต่ต่อมา หลังจากที่แฮร์รี่พูดภาษาพาร์เซลกับงูที่มัลฟอยเสกขึ้นมาในชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว เขาก็ถูกสงสัยว่าอาจจะเป็นทายาทสลิธีริน ทำให้ถูกรังเกียจและหวาดกลัวจากบรรดาผู้ที่เชื่อเช่นนั้น หลังจากนั้นไม่นานนักเรียนบ้านฮัฟเฟิลพัฟ จัสติน ฟินช์-เฟล็ทชลีย์ก็ถูกโจมตีด้วยอีกคน ทำให้ความสงสัยว่าแฮร์รี่อาจจะเป็นทายาทเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก ในที่สุดน้ำยาสรรพรสก็พร้อมหลังจากผ่านการเคี่ยวมานานในห้องน้ำหญิงชำรุดที่มีผีเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญอาศัยอยู่ แฮร์รี่แปลงเป็นกอยล์ รอนแปลงเป็นแครบ และเฮอร์ไมโอนี่ (โดยไม่ได้ตั้งใจ) แปลงเป็นแมวของมิลลิเซนต์ บัลสโตรด (เนื่องจากน้ำยาสรรพรสแปลงรูปมนุษย์เป็นสัตว์ไม่ได้ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องได้รับการรักษา) จึงมีเพียงแฮร์รี่และรอนเท่านั้นที่ได้เข้าไปหามัลฟอย แต่มัลฟอยสารภาพกับแฮร์รี่และรอนในร่างของกอยล์และแครบว่าเขาไม่ได้ทำ สร้างความประหลาดใจให้แก่ทั้งสองคนพอสมควร และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ออกมาจากห้องพยาบาลหลังจากผ่านการรักษาแล้ว แฮร์รี่ก็เผอิญพบกับสมุดบันทึกเปียกน้ำในห้องน้ำหญิงชำรุด แฮร์รีพบว่าสมุดบันทึกเล่มนี้เป็นของ ทอม ริดเดิ้ล นักเรียนที่ฮอกวอตส์เมื่อ 50 ปีที่แล้วซึ่งบันทึกความจำเอาไว้ในสมุดบันทึกของตน เขาพาแฮร์รี่ไปดูเหตุการณ์เมื่อ 50 ปีก่อนเมื่อห้องแห่งความลับถูกเปิดเป็นครั้งแรก ริดเดิ้ลแสดงให้แฮร์รี่ดูว่าผู้กระทำผิดเมื่อ 50 ปีที่แล้วคือแฮกริด ผู้ดูแลสัตว์ของฮอกวอตส์ในปัจจุบันนี่เอง แฮร์รี่และเพื่อนพบว่าแฮกริดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในขณะเดียวกันแฮร์รี่ยังคงได้ยินเสียงปริศนานั้นอยู่ต่อไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีการโจมตีอีกครั้งติดต่อกันสองรายรวดได้แก่ เพเนโลพี เคลียร์วอเทอร์ พรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอ และเฮอร์ไมโอนี่เอง นี่ทำให้แฮกริดถูกจับกุมตัวไปยังคุกอัซคาบัน สถานจองจำของพ่อมดแม่มดที่ทำผิดร้ายแรง รวมถึงดัมเบิลดอร์ถูกคณะกรรมการสั่งพักงานจากคำขู่เข็ญของนายมัลฟอย ทำให้แฮร์รี่และรอนยิ่งต้องรีบค้นหาทายาทแห่งสลิธีรินให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งคู่ทำตามคำใบ้ของแฮกกริดไปเข้าไปในป่าต้องห้าม ที่ที่พวกเขาพบกับแมงมุมยักษ์ชื่อว่าอาราก็อก ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของแฮกริดมาตั้งแต่เด็ก และแมงมุมตัวนี้เองที่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจในห้องแห่งความลับ แมงมุมยักษ์กล่าวกับทั้งสองคนว่าแฮกริดไม่ใช่คนเปิดห้องแห่งความลับ และมันก็ไม่ได้เป็นสัตว์ร้ายดังตำนาน แต่สัตว์ร้ายนั้นมีอยู่จริงและเป็นสัตว์ที่พวกแมงมุมกลัวมาก จนต้องหนีออกมาอยู่นอกปราสาท เมื่อทราบแล้วแฮร์รี่และรอนก็ถูกบรรดาลูกสมุนแมงมุมของอาราก็อกพยายามจับตัวเป็นอาหาร แต่โชคดีที่รถฟอร์ดแองเกลียบินได้มาช่วยพวกเขาทันเวลาทำให้หนีออกมาจากรังแมงมุมได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยความช่วยเหลือจากโน้ตที่เฮอร์ไมโอนี่ทิ้งไว้ แฮร์รี่และรอนจึงไขปริศนาได้ว่าแท้ที่จริงแล้วสัตว์ร้ายแห่งห้องแห่งความลับคืองูยักษ์บาซิลิสก์ ซึ่งมีดวงตาอานุภาพสังหารที่เพียงสบตามันก็จะเสียชีวิตในทันที โชคดีที่แต่ละคนดูเหมือนจะสบตางูทางอ้อมทั้งสิ้น (ยกเว้นผีนิคหัวเกือบขาด ที่สบตากับงูตรงๆ แต่เขา'ไม่สามารถตายได้อีก') ทันทีที่ทราบทั้งสองก็พบว่าน้องสาวของรอน จินนี่จะถูกจับตัวไปยังห้องแห่งความลับ โดยมีข้อความเป็นเลือดทิ้งไว้ว่า "โครงกระดูกของเธอจะนอนอยู่ในห้องชั่วนิรันดร์" เมื่อทราบพวกเขาจึงไปตามศาสตราจารย์ล็อกฮาร์ต (ที่กำลังจะหนีเนื่องจากได้รับมอบหมายให้ไปหาตัวจินนี่) ล็อกฮาร์ตปฏิเสธและถูกแฮร์รี่และรอนบังคับให้ลงไปในท่ออุโมงค์ของห้องแห่งความลับที่ซ่อนอยู่ใต้ห้องน้ำหญิงชำรุด ที่ที่ล็อกฮาร์ตชิงไม้กายสิทธิ์มาจากรอน และเสกคาถาลบความจำใส่แฮร์รี่และรอนซึ่งทราบแล้วว่า ล็อกฮาร์ตอาศัยประสบการณ์ของคนอื่นไปเขียนหนังสือแล้วเสกคาถาลบความจำคนคนนั้น แต่ไม้กายสิทธิ์ของรอนที่เสียหายตั้งแต่ต้นปีสะท้อนคาถาลบความจำเข้าสู่ตัวล็อกฮาร์ต ทำให้เขาความจำเสื่อมเสียเอง รอนอยู่เฝ้าล็อกฮาร์ตที่ความจำเสื่อมไปแล้ว ส่วนแฮร์รี่เข้าไปในห้องแห่งความลับคนเดียว เขาพบว่าจินนี่กำลังจะตาย และพบทอม ริดเดิ้ลที่เคยอยู่แต่ในความทรงจำในสมุดบันทึกเมื่อ 50 ปีก่อน บัดนี้ปรากฏตัวให้เห็นเป็นรูปร่างภายนอกเกือบเด่นชัดแล้ว ริดเดิ้ลบอกกับแฮร์รี่ว่าจินนี่กำลังถ่ายชีวิตและจิตวิญญาณให้กับเขา และทำให้เขาแข็งแรงขึ้น ในที่สุดเขาเปิดเผยตัวเองว่าเขาเป็นความทรงจำเมื่อ 50 ปีที่แล้วของโวลเดอมอร์ในวัยสิบหกปี ผู้ซึ่งเป็นทายาทที่แท้จริงของซาลาซาร์ สลิธีริน จากนั้นริดเดิ้ลก็สั่งให้งูยักษ์บาสิลิสก์ลงมือสังหารแฮร์รี่ แต่เมื่อแฮร์รี่กล่าวแสดงความภักดีต่อดัมเบิลดอร์ ก็ได้รับความช่วยเหลือจากฟอกส์ นกฟีนิกซ์ของดัมเบิลดอร์ที่นำหมวกคัดสรรซึ่งซ่อนดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์มาให้ และฟอกส์ช่วยแฮร์รี่โดยการจิกลงไปยังตาพิฆาตของบาสิลิสก์ ทำให้ตาของงูยักษ์ไม่เป็นอันตรายต่อแฮร์รี่อีกต่อไป แฮร์รี่สามารถสังหารบาสิลิสก์ได้ แต่ก็ต้องแลกกับการถูกเขี้ยวพิษของงูฝังเข้าไปเต็มๆ ทว่าฟอกส์ก็ช่วยแฮร์รี่ได้อีกครั้งด้วยการหลั่งหยาดน้ำตาของนกฟีนิกซ์ซึ่งมีอำนาจสมานแผล เมื่อแฮร์รี่กลับมาเป็นปกติแล้วก็สามารถกำจัดริดเดิ้ลโดยทำลายสมุดบันทึกด้วยเขี้ยวพิษของงู และคืนชีวิตและวิญญาณให้แก่จินนี่อีกครั้ง นักเรียนทุกคนที่ถูกทำร้ายกลับคืนสู่สภาพปกติ แฮร์รี่พบว่าลูเซียส มัลฟอยนั่นเองเป็นผู้ยัดสมุดบันทึกให้กับจินนี่ขณะที่วิวาทกันกลางร้านตัวบรรจงและหยดหมึก แต่ไม่สามารถทำอะไรนายมัลฟอยได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเขาทำเช่นนั้น แฮร์รี่สังเกตเห็นด๊อบบี้ที่มากับเจ้านายมัลฟอย จึงหาทางช่วยโดยซ่อนถุงเท้าไว้ในสมุดบันทึกของริดเดิ้ลแล้วนำไปคืนให้นายมัลฟอย นายมัลฟอยยื่นสมุดบันทึกให้ด๊อบบี้ แฮร์รี่พยายามให้ด๊อบบี้เปิดสมุดบันทึกของริดเดิ้ลเพื่อจะได้เห็นถุงเท้า ซึ่งการกระทำเช่นนั้น(การที่เจ้านายมอบเสื้อผ้าให้เอลฟ์ประจำบ้านของตนเอง)คือการปล่อยด๊อบบี้ให้เป็นไท ด๊อบบี้ผู้เป็นไทแล้วสำนึกในบุญคุณของแฮร์รี่อย่างสูง ล็อกฮาร์ตผู้ความจำเสื่อมถาวรถูกส่งตัวเข้าไปบำบัดในโรงพยาบาลวิเศษเซนต์มังโกเพื่อผู้ป่วยและบาดเจ็บ และปีที่สองในฮอกวอตส์ของแฮร์รี่ก็จบลงอย่างมีความสุข

หนัง

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 1

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 2

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 3

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 4

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 5

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 6

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 7

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 8

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 9

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์

เรื่องย่อแฮร์รี่

แฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่กับลุงกับป้าและลูกพี่ลูกน้องมาตลอดเป็นเวลา 10 ปี จนวันหนึ่ง เขาได้รับจดหมายจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ลุงกับป้ารู้เรื่องว่าจดหมายนั้นคืออะไรจึงพยายามไม่ให้แฮร์รี่ ได้อ่านจดหมายทุกวิถีทาง วันที่เด็กชายมีอายุครบสิบเอ็ดปี เขาได้รับจดหมายจากโรงเรียนพ่อมดแม่มด และ เวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ให้ไปเข้าชั้นเรียน แฮกริด ภารโรง และ ผู้ดูแลสัตว์ของฮอกวอตส์เป็นคนมารับ แฮร์รี่ ไปซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ตรอกไดแอกอน ย่านการจับจ่ายของพ่อมดแม่มด น่าแปลกที่ใคร ๆ ก็รู้จักแฮร์รี่! ในที่สุดแฮกริดก็เปิดเผยให้เด็กชายรู้ว่า พ่อแม่ ของเขาไม่ได้ถูกรถชนตายอย่างที่ลุงป้าบอก และ แผลเป็นรูปสายฟ้าบนหน้าผากของเขามีที่มาอย่างไร แฮกริดได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับชีวิตพ่อมดอีกหลายอย่าง ก่อนจะพาเขาไปส่งที่ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ สถานีรถไฟคิงส์ครอส และบนรถไฟเขาก็ได้พบกับรอนและเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อถึงปราสาทเขาก็ได้รับการคัดสรรให้ไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ และเขาก็ได้พบกับอาจารย์วิชาปรุงยานั่นคือ ศาสตราจารย์ สเนป ซึ่งดูจะไม่ชอบเขาเอาเสียเลย และในวันฮาโลวีนก็ได้มีคนปล่อยโทรลล์ออกมาเพ่นพ่านเขาสามารถจัดการโทรลล์ หลังจากนั้นเขาได้พบกับหมาสามหัวที่เฝ้าประตูกล อยู่พวกเขาจึงสงสัยว่าสเนปพยายามเอาอะไรบางอย่างจากข้างในประตูกลหลังจานั้นแฮกริดคนดูแลสัตว์ก็ได้เผลอหลุดปากเรื่องของนิโคลัส แฟรมเมล พวกเขาจึงค้นหาจนพบว่า นิโคลัส แฟรมเมลเป็นผู้ประดิษฐ์ศิลาอาถรรพ์ ซึ่งศิลานี้ทำให้ผู้ที่มีครอบครองนั้นเป็นอมตะ คืนหนึ่งพวกเขาได้นำมังกรที่แฮกริดนำมาเลี้ยงไปให้ชาลีพี่ชายของรอนให้นำมันไปเลี้ยงดู แต่ก็ต้องถูกจับได้และโดนทำโทษให้ไปกักบริเวณที่ป่าต้องห้ามและพบกับใครคนหนึ่งซึ่งกำลังกินเลือดของยูนิคอนที่ทำให้มีชีวิตได้แม้ยามใกล้ตายและรู้ว่าคนผู้นั้นคือ โวลเดอมอร์ คนที่ฆ่าพ่อแม่แฮร์รี่ และคิดว่าสเนปต้องการเอาศิลาไปให้โวลเดอมอร์ และในคืนหนึ่ง พวกเขาได้ไปที่ประตูกลและผ่านด่านกับดักมาร กุญแจบินได้ หมากรุกยักษ์ แต่ในด่านหมารุกยักษ์ รอนบาดเจ็บ จึงเหลือแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ทั้งสองผ่านด่านโทรลล์ และเมื่อมาถึงด่านยาพิษแฮร์รี่ดื่มยาที่ต้องไปต่อข้างหน้า แต่เฮอร์ไมโอนี่ดื่มยาที่ต้องกลับไป จึงเหลือแฮร์รี่คนเดียวที่ต้องป้องกันศิลาอาถรรพ์ และพบกับศาสตราจารย์ครีเรลล์ ที่เล่าให้แฮร์รี่ฟังว่าตนเป็นคนปล่อยโทรลล์ และพยายามฆ่าแฮร์รี่มาตลอด โดยเขาต้องการศิลาอาถรรพ์ และเล่าให้ฟังว่าสเนปเป็นผู้บริสุทธิ์มาตลอด และพบกับกระจกเงาแห่งแอริเซดและพบโวลเดอมอร์ที่อยู่ข้างหลังหัวของครีเรลล์ ต่อจากนั้นเขาก็พบศิลาอาถรรพ์อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา โวลเดอมอร์จึงขอให้แฮร์รี่มอบศิลาให้ แต่แฮร์รี่ไม่ยอม ศาสตราจารย์ครีเรลล์จึงเข้ามาปะทะกับเขา แต่หลังจากนั้นแฮร์รี่ก็ได้สลบไป เขาตื่นขึ้นมาจึงพบว่าเขาอยู่ในห้องพยาบาล และพบกับดัมเบิลดอร์ซึ่งเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่แฮร์รี่สลบไปเขาได้ไปช่วยและศิลาอาถรรพ์ถูกทำลาย ศาสตราจารย์ครีเรลล์ตาย และโวลเดอมอร์สูญสลายไป ในขณะเดียวกันนิโคลัส แฟรมเมลก็ตายไปด้วยเช่นกัน ต่อมาในวันปิดภาคเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ได้ถ้วยบ้านดีเด่น ซึ่งคะแนนได้มาจากที่พวกเขาช่วยกันปกป้องศิลาอาถรรพ์ไว้ได้

หนัง